กรณีที่ก.ล.ต.ได้ยื่นกล่าวโทษนายณิทธิมน เนื่องจากนายณิทธิมน ไม่ยินยอมเข้ารับการเปรียบเทียบปรับตามข้อกล่าวหาของก.ล.ต. และประสงค์จะใช้สิทธิต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรมต่อไป ซึ่งผลจากการที่ก.ล.ต.กล่าวโทษ ทำให้นายณิทธิมน ไม่สามารถเป็นกรรมการและผู้บริหารของบริษัทได้ อย่างไรก็ตามเนื่องจากนายณิทธิมน ได้ยื่นหนังสือลาออกมายังบริษัท โดยระบุให้การลาออกมีผลตั้งแต่วันที่ 21 ธ.ค.ที่ผ่านมาตามที่บริษัทได้รายงานข้อมูลให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ และนักลงทุนได้ทราบไปแล้วก่อนหน้านี้
ดังนั้น เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. ตามที่ก.ล.ต.ได้กล่าวโทษนายณิทธิมน ต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.)นั้น นายณิทธิมน จึงไม่ได้ดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการหรือผู้บริหารในบริษัทอยู่แล้ว จึงไม่ต้องดำเนินการเพื่อให้นายณิทธิมน สิ้นสุดการดำรงตำแหน่งกรรมการหรือผู้บริหารในบริษัทแต่อย่างใด
อนึ่ง การกล่าวโทษของก.ล.ต. เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของกระบวนการบังคับใช้กฎหมายทางอาญาเท่านั้น ภายใต้กระบวนการนี้ การพิจารณาวินิจฉัยว่าบุคคลใดเป็นผู้กระทำผิดกฎหมาย เป็นขั้นตอนในอำนาจการสอบสวนของพนักงานสอบสวน การสั่งฟ้องคดีของพนักงานอัยการ ตลอดจนดุลพินิจของศาลยุติธรรมตามลำดับ