ราคาที่เสนอขายต่อผู้ถือหุ้นเดิมดังกล่าว คิดเป็น 1.75 เท่าของมูลค่าตามบัญชี (Book Value) ณ วันที่ 30 ก.ย.58 ที่เท่ากับ 0.57 บาท/หุ้น และคาดว่าจะทำให้บริษัทสามารถระดมเงินทุนได้เป็นไปตามจำนวนที่บริษัทตั้งไว้ โดยการเพิ่มทุนดังกล่าวเป็นหนึ่งในแนวทางที่จะแก้ปัญหาฐานะทางการเงินของบริษัท เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจเข้าข่ายถูกเพิกถอนหุ้นจากตลาดหลักทรัพย์ฯ
ทั้งนี้ คณะกรรมการบริษัทอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 255,756,773.50 บาท จากเดิมที่ 76,727,032 บาท โดยการออกหุ้นเพิ่มทุนใหม่เพื่อเสนอขายหุ้นให้กับผู้ถือหุ้นเดิมดังกล่าว และจะนำเสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2559 ในวันที่ 17 ก.พ.นี้ต่อไป
สำหรับวัตถุประสงค์ในการเพิ่มทุนจดทะเบียน เพื่อเป็นหนึ่งในแนวทางแก้ไขปัญหาฐานะทางการเงิน ลดความเสี่ยงที่อาจเข้าข่ายถูกเพิกถอนหุ้นจากตลาดหลักทรัพย์ฯ เนื่องจากส่วนของผู้ถือหุ้นบริษัทที่ปรับลดลง จากผลประกอบการที่ขาดทุนต่อเนื่องในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา โดยบริษัทมีแผนนำเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนครั้งนี้ไปใช้ในการดำเนินการต่างๆภายในปี 59-60
โดยเงินจำนวนประมาณ 258 ล้านบาท จะใช้ชำระคืนหนี้เงินกู้ยืมจากกิจการที่เกี่ยวข้องกัน หนี้เงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน และภาระหนี้อื่นของบริษัท ตลอดจนชำระดอกเบี้ยและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับหนี้ดังกล่าว
ส่วนเงินที่เหลืออีกจำนวนประมาณ 100 ล้านบาท จะใช้ลงทุนในธุรกิจค้าปลีกแก๊ส หรือน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งบริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ ซึ่งหากผลการศึกษาแสดงความไม่คุ้มค่าต่อการลงทุน หรือหากมีเงินคงเหลือจากการลงทุนในส่วนนี้ บริษัทจะนำเงินดังกล่าวไปใช้ในการลงทุนขยายธุรกิจของบริษัท และบริษัทในเครือที่ดำเนินการอยู่ ได้แก่ ธุรกิจถ่านหิน ธุรกิจท่าเรือ ธุรกิจเรือลำเลียง และธุรกิจคลังสินค้าและการขนส่งทางบก ซึ่งอยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ และหากผลการศึกษาแสดงความไม่คุ้มค่าต่อการลงทุน หรือหากมีเงินคงเหลือจากการลงทุนในส่วนนี้ บริษัทจะนำเงินดังกล่าวเพื่อใช้ในการชำระคืนหนี้เงินกู้ยืมจากกิจการที่เกี่ยวข้องกัน หนี้เงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน และภาระหนี้อื่นของบริษัท ตลอดจนชำระดอกเบี้ยและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับหนี้ดังกล่าว
ทั้งนี้ หากมีเงินเพิ่มทุนคงเหลือก็จะนำเงินไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนทั่วไปในการดำเนินธุรกิจของบริษัทต่อไป