ทั้งนี้ คาดว่าในปีนี้เศรษฐกิจของไทยจะขยายตัวได้ 3.5% จากการขับเคลื่อนของภาครัฐเป็นหลัก โดยเฉพาะการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน ที่จะเริ่มก่อสร้างในไตรมาสสุดท้ายของปี ก่อให้มีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบราว 1.3 แสนล้านบาท เช่น โครงการรถไฟฟ้า ซึ่งจะผลักดันให้การลงทุนภาคเอกชนขยายตัวตามไปด้วย ประกอบกับมาตรการเร่งรัดการลงทุนของภาคเอกชน ทั้งเรื่องมาตรการช่วยเหลือทางการเงินเอสเอ็มอี และมาตรการเร่งรัดการลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษ ตลอดจนการท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง และการบริโภคโดยรวมมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นจากความเชื่อมั่นที่ปรับตัวดีขึ้นและแนวโน้มการออกมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายเพิ่มเติม แต่ยังมีปัจจัยหน่วงจากรายได้ภาคการเกษตรที่ยังอยู่ในระดับต่ำ เช่นเดียวกับภาคการส่งออก ที่จะกลับมาขยายตัวเป็นบวกได้เล็กน้อย
สำหรับในปี 58 ผลการดำเนินงานหลักของธนาคารยังคงเติบโตต่อเนื่อง โดยมีกำไรจากการดำเนินงานก่อนหักสำรองฯ (PPOP) อยู่ที่ 16,937 ล้านบาท เติบโต 19.7% จากปี 57 แต่เพื่อป้องกันความเสี่ยงขาลงและรองรับสถานการณ์สินเชื่อด้อยคุณภาพ จึงได้ตั้งสำรองฯในระดับที่สูงขึ้น ซึ่งส่งผลให้กำไรสุทธิลดลงในปี 58
โดยผลการดำเนินงานหลักที่เติบโตขึ้น แม้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยในตลาดเป็นขาลง แต่ส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยของธนาคารเพิ่มขึ้นมาที่ 2.99% จาก 2.95% ในปีก่อนหน้า ขณะที่ ณ สิ้นปี 58 ธนาคารและบริษัทย่อยมีสินเชื่อรวมเพิ่มขึ้น 9.5% จากสิ้นธ.ค.57 และเพิ่มขึ้น 2.4% จากเดือนก.ย.58 ขณะที่มีสินเชื่อด้อยคุณภาพ ณ สิ้นปี 58 เพิ่มขึ้น 13.2% จากสิ้นปี 57 ซึ่งเป็นไปตามสถานการณ์เศรษฐกิจ เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/58 สินเชื่อด้อยคุณภาพเพิ่มขึ้น 3.4%