การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามมติที่ประชุมของคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 26 ม.ค.59 และได้มีการลงนามในสัญญาเมื่อวันที่ 29 ม.ค.ที่ผ่านมา สำหรับโรงไฟฟ้าของกลุ่ม SunEdison ประกอบด้วย โครงการที่เปิดดำเนินการแล้ว 13 เมกะวัตต์ ,โครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง 27 เมกะวัตต์ และโครงการระหว่างการพัฒนา 158 เมกะวัตต์
ทั้งนี้ จะเป็นการเข้าซื้อหุ้นสามัญทั้งหมดใน 3 บริษัท ได้แก่ SunEdison Japan Corporation จำกัด (SEJ) ,บริษัท SunEdison Japan Debt Financing จำกัด (SEDF) และบริษัท SunEdison TK Investor 1 จำกัด (SETK)
สำหรับ SEJ มีส่วนทุนของกิจการ 489 ล้านเยน หรือราว 148 ล้านบาท เป็นผู้พัฒนาโครงการ บริหารจัดการ ก่อสร้างและดำเนินการ รวมถึงบริหารเงินลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในญี่ปุ่น โดยมีโครงการอยู่ระหว่างการพัฒนากว่า 185 เมกะวัตต์ แบ่งเป็น โครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง 27 เมกะวัตต์ และโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนา 158 เมกะวัตต์
ส่วน SEDF มีส่วนทุนของกิจการ 2.64 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ หรือราว 67 ล้านบาท ดำเนินธุรกิจลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ รวม 3 เมกะวัตต์ในญี่ปุ่น และ SETK มีส่วนทุนของกิจการ 7.43 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ หรือราว 188 ล้านบาท ดำเนินธุรกิจลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด 10 เมกะวัตต์ในญี่ปุ่น
BCP ระบุว่า สำหรับเงินลงทุนในการเข้าซื้อกิจการดังกล่าวจะใช้เงินสดภายในบริษัท โดยการชำระเงินจะแบ่งเป็น 2 ส่วน การชำระครั้งแรก ในวงเงินไม่เกิน 4,141 ล้านเยน หรือเทียบเท่า 1,254 ล้านบาท โดยอ้างอิงจากการประเมินมูลค่าของโครงการที่เปิดดำเนินการแล้ว โครงการระหว่างการก่อสร้าง และโครงการที่มีความพร้อมในการก่อสร้าง รวมประมาณ 63 เมกะวัตต์ รวมถึงมูลค่าของ SEJ ซึ่งเป็นบริษัทบริหารจัดการทำหน้าที่พัฒนาโครงการใหม่ และบริหารจัดการการลงทุน ส่วนที่เหลือจะชำระตามเงื่อนไขความสำเร็จของแต่ละโครงการ
ทั้งนี้ การเข้าลงทุนดังกล่าวสอดคล้องกับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจของบริษัท และ BPCG ในการลงทุนในธุรกิจพลังงานทดแทน เพื่อเพิ่มมูลค่าของกิจการและกระจายความเสี่ยงของรายได้