GPSC แจ้งความคืบหน้าของโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนา และอยู่ระหว่างการศึกษาวิจัยและพัฒนา ได้แก่ โครงการโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติและถ่านหินในเมียนมาร์ 3 โครงการ ได้แก่ โครงการในเมืองตันลิน รูปแบบ Combined Cycle Power Plant ใช้เชื้อเพลิงประเภทก๊ ซธรรมชาติ มีกำลังการผลิตไฟฟ้าโดยประมาณ 400 เมกะวัตต์ ปัจจุบันกำลังดำเนินการแก้ไขรายงานการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ (Feasibility Report) และเจรจาบันทึกข้อตกลง (MOA) กับกระทรวงการไฟฟ้าแห่งสหภาพเมียนมาร์ (Ministry of Electric Power:MOEP) คาดว่าจะเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ในปี 63 และจะจำหน่ายไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าแห่งสภาพเมียนมาร์ (Myanmar Electric Power Enterprise:MEPE)
โครงการในเมืองมะริด ใช้เชื้อเพลิงประเภทถ่านหิน มีกำลังการผลิตไฟฟ้าประมาณ 2,500 เมกะวัตต์ เมื่อแล้วเสร็จจะจำหน่ายไฟฟ้าให้กับ MEPE และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ซึ่งขณะนี้กำลังเจรจา MOA กับ MOEP คาดว่าจะเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ในปี 64-65
โครงการในเมืองไจ้ก์ลัต รูปแบบ Combined Cycle Power Plant ใช้เชื้อเพลิงประเภทก๊าซธรรมชาติ มีกำลังการผลิตไฟฟ้าประมาณ 500 เมกะวัตต์ เมื่อแล้วเสร็จจะจำหน่ายไฟฟ้าให้กับ MEPE ปัจจุบันกำลังดำเนินการเจรจา MOA กับ MOEP คาดว่าจะเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ในปี 63
ส่วนโครงการบริหารจัดการขยะครบวงจร จ.ระยอง บริษัทได้ทำการศึกษาข้อมูลและความเป็นไปได้ของโครงการบริหารจัดการขยะครบวงจรเพื่อผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงขยะร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดระยอง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อร่วมกันพัฒนาระบบการจัดการขยะมูลฝอยที่มุ่งไปสู่เทคโนโลยีการแปลงขยะมูลฝอยเป็นพลังงาน (Waste to Energy) ซึ่งโครงการจะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าประมาณ 6-9 เมกะวัตต์ ปัจจุบันดำเนินการจัดทำรายงานการศึกษามาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัย และรายงานแผนปฏิบัติการด้านสิ่งแวดล้อมตามประมวลหลักการปฏิบัติ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว รวมทั้งได้ออกแบบจัดทำ Basic Engineering Design Package (BED) เสร็จสมบูรณ์แล้ว ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างกระบวนการจัดเตรียมการประกวดราคา เพื่อคัดเลือกผู้รับเหมา และอยู่ระหว่างการยื่นขออนุญาตจำหน่ายไฟฟ้ากับกกพ. ทั้งนี้ หากโครงการดังกล่าวสามารถดำเนินการได้ จะเป็นต้นแบบในการขยายการลงทุนของบริษัทในโครงการบริหารจัดการขยะในพื้นที่อื่นต่อไป
สำหรับโครงการ 24M Technologies, Inc.(24M) ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐฯ ที่ GPSC ถือหุ้นอยู่ 17% โดย 24M ประกอบธุรกิจหลักในการวิจัยและพัฒนาการผลิตแบตเตอรี่ประเภทลิเทียม-ไอออน (Lithium-Ion) เพื่อนำมาประยุกต์ใช้เป็นระบบกักเก็บไฟฟ้าสำรองสำหรับภาคอุตสาหกรรม และการเสริมสร้างความมั่นคงในระบบจ่ายไฟฟ้าและระบบเชื่อมโยง ปัจจุบัน 24M ได้ทำการวิจัยและพัฒนาแบตเตอรี่ Lithium-Ion มาจนถึง Series B : Pilot Plant ซึ่งในขั้นต่อไปจะเป็น Series C : High Volume Manufacturing และเมื่อเดือนต.ค.58 ที่ผ่านมา 24M ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจกับ NEC Energy Solution เพื่อจัดหาแบตเตอรี่ลิเทียม-ไออน ประเภทกึ่งของเหลว (Semisolid Lithium-Ion) ให้กับระบบกักเก็บรวมของ NEC