ทั้งนี้ การเข้าทำรายการดังกล่าว เพื่อเพิ่มโอกาสในการลงทุนในธุรกิจพลังงานทางเลือก โดยเฉพาะโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ให้แก่บริษัท
นอกจากนั้น ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทยังอนุมัติให้รับชำระหนี้บางส่วนด้วยทรัพย์สินของ OBH ภายในไตรมาส 1/59 โดย OBH มีหนี้ค้างชำระกับบริษัทเป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น 126,262,050 บาท เกิดจากการที่ OBH ค้างชำระหนี้ค่าสินค้ากล่อง Set Top Box และคูปองแลกกล่อง Set Top Box กับบริษัท อย่างไรก็ดีบริษัท ได้รับชำระหนี้ดังกล่าวบางส่วนจาก OBH เป็นเช็คธนาคารกรุงไทย รวมเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 89,416,050 บาท แต่ไม่สามารถเรียกเก็บเงินได้จากเช็คทั้งสองฉบับ
ก่อนหน้านี้ OBH ได้ชำระเงินสด จำนวน 1,000,000 บาท และจำนวน 2,000,000 บาท เมื่อวันที่ 15 และ 28 กรกฎาคม 58 ตามลำดับ ต่อมาบริษัทได้ดำเนินการตามขั้นตอนตามกฎหมายภายใต้พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 จนกระทั่ง OBH ได้เสนอทรัพย์สินเพื่อชำระหนี้ให้แก่บริษัท ซึ่งมติที่ประชุมคณะกรรมการ ครั้งที่ 13/2558 เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2558 ได้มีมติอนุมัติการรับโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุด จำนวน 2 ห้อง จำนวน 66,000,000 บาททั้งนี้ ยังเหลือหนี้อยู่อีกจำนวน 57,262,050 บาท
ดังนั้น OBH ได้เสนอทรัพย์สินเพื่อเป็นการชำระหนี้เพิ่มเติมให้แก่บริษัท เป็นห้องพักอาศัยในอาคารชุดตึกช้าง พื้นที่ประมาณ 363.25 ตารางเมตร ในราคาที่ตกลงกันระหว่างบริษัท และ OBH เพื่อตีทรัพย์ชำระหนี้ จำนวน 60,564.35 บาท ต่อตารางเมตร รวมเป็นเงินจำนวน 22,000,000 บาท และ ห้องชุดพักอาศัย ยูนิตที่ 2 ในอาคารชุดตึกช้าง พื้นที่ประมาณ 354.74 ตารางเมตร ในราคาที่ตกลงกันระหว่างบริษัท และ OBH เพื่อตีทรัพย์ชำระหนี้ จำนวน 62,017.25 บาท ต่อตารางเมตร รวมเป็นเงินจำนวน 22,000,000 บาท รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ OBH นำมาชำระมีมูลค่ารวม 44,000,000 บาท
ภายหลังจากที่บริษัท รับชำระหนี้ด้วยทรัพย์สินข้างต้น OBH ยังคงเหลือหนี้ที่ยังต้องชำระให้แก่บริษัท อีกจำนวน 13,262,050 บาท ทั้งนี้ ในส่วนจำนวนหนี้ที่เหลือดังกล่าว บริษัท ขอให้ OBH ชำระหนี้ในส่วนที่เหลือด้วยเงินสดและ/หรือเช็ค