ในกรณีที่ธุรกรรมการซื้อขายนั้นเสร็จสิ้นสมบูรณ์ HKKW จะเข้าถือหุ้นใน KTP มากกว่า 25% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของ KTP ซึ่งจะส่งผลให้ HKKW จะต้องทำคำเสนอซื้อหุ้นและหลักทรัพย์ทั้งหมดของบริษัท ตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนและหลักเกณฑ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ตามที่ปรากฎในประกาศของบริษัทก่อนหน้านี้ ซึ่งมีค่าตอบแทนรวมทั้งหมดสำหรับธุรกรรมการซื้อขายนี้เป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น 300 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามค่าตอบแทนรวมดังกล่าวนั้น ได้แก่ ค่าตอบแทนการซื้อหุ้น KTP ของ KLL และหุ้นของบริษัท แฮมเชียร์ พีทีอี แอลทีดี ของ KLL และหนี้เงินกู้ที่ผู้ขายได้ให้บริษัทย่อยของ KTP กู้ โดยมูลค่าค่าตอบแทนที่แน่นอนและเป็นที่สุดสำหรับการซื้อหุ้นและการซื้อหนี้คงค้างดังกล่าวนั้นยังไม่ได้ถูกกำหนดไว้
นอกจากนี้ ตามหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กำหนดการกำหนดราคาสำหรับการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์นั้นจะต้องไม่ต่ำกว่าราคาที่มีการได้หุ้น KTP ที่จะขายซึ่งผู้ซื้อได้ชำระให้แก่ทางผู้ขาย โดยราคาซื้อหุ้น KTP ที่จะขายนั้นยังไม่ได้ถูกกำหนดเป็นที่สุดเนื่องจากการกำหนดราคานั้นต้องขึ้นอยู่กับราคาตลาดของหุ้น KTP ที่จะขายและปัจจัยอื่นๆ ณ วันที่ธุรกรรมเสร็จสิ้นด้วย ราคาที่เป็นที่สุดของราคาซื้อหุ้น KTP ที่จะขายจะถูกกำหนด ณ วันที่ธุรกรรมเสร็จสิ้น และหลังจากนั้นผู้ซื้อจะจัดทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของกิจการ ซึ่งคาดว่าน่าจะเกิดขึ้นระหว่างเดือนพ.ค.-มิ.ย.59
HKKW เป็นบริษัทที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายของหมู่เกาะบริติชเวอร์จิน และเป็นบริษัทในเครือของ คิง ไว กรุ๊ป ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทที่ตั้งขึ้นในฮ่องกง และมีประธานกรรมการคือนายชาน คิง ไว เป็นเจ้าของ มาเป็นเวลากว่า 30 ปี
ปัจจุบัน ธุรกิจหลักของ คิง ไว กรุ๊ป ครอบคลุมถึงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ การให้บริการทางการเงินพาณิชย์อิเล็คทรอนิกส์ระหว่างประเทศ และการให้บริการ Supply Chain โดยมีการลงทุนทั้งในประเทศจีน ฮ่องกง และประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นอกจากนี้ คิง ไว กรุ๊ป ได้ทำการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในเซี่ยงไฮ้และเทียนจินเป็นเวลาหลายปี โดยมีพื้นที่รวมของอาคารทั้งหมดกว่า 3 ล้านตารางเมตรที่อยู่ภายใต้การพัฒนาดังกล่าว
ขณะที่นายชาน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นผู้ช่วยกรรมการคณะกรรมการเศรษฐกิจของคณะกรรมการแห่งชาติสภาที่ปรึกษาทางการเมืองข องจีน รองประธานกรรมการสภาอุตสาหกรรมและการค้าทั่วประเทศจีน ประธานกิตติมศักดิ์หอการค้าไทย-จีน และประธานหอการค้าฮ่องกงจีน และยังมีตำแหน่งอื่นอีก
ทั้งนี้ ก่อนที่ธุรกรรมการซื้อขายจะเสร็จสิ้น KTP จะยังคงดำเนินธุรกิจและประกอบกิจการเป็นปกติเช่นเดิม และเมื่อธุรกรรมการซื้อขายเสร็จสิ้นลงหรือโดยเร็วที่สุดภายหลังจากนั้น กรรมการที่เสนอชื่อโดย KLL จะลาออกจากคณะกรรมการบริษัทของ KTP และจะถูกแทนที่โดยกรรมการที่เสนอชื่อโดย HKKW โดยหลังจากนั้นการดำเนินธุรกิจของ KTP จะเป็นไปตามแผนงานและยุทธศาสตร์ที่ถูกกำหนดขึ้นโดยคณะกรรมการชุดใหม่
อนึ่ง เมื่อวันศุกร์ KLL และบริษัทย่อยของ KLL คือ บริษัทเคปเปล แลนด์ ไฟแนนเชียล เซอร์วิส พีทีอี แอลทีดี ได้เข้าทำสัญญาซื้อขายแบบมีเงื่อนไข กับ HKKW ซึ่งเป็นผู้ซื้อ โดยมีค่าตอบแทนรวมจำนวน 300 ล้านบาท หรือประมาณ 11.8 ล้านเหรียญสิงคโปร์ เกี่ยวกับธุรกรรมการซื้อขาย ซึ่งประกอบด้วย การขายหุ้นจำนวน 100 ล้านหุ้น คิดเป็น 45.45% ขอหุ้นใน KTP ,การขายหุ้นจำนวน 2 หุ้น คิดเป็น 100% ในบริษัทแฮม เชียร์ พีทีอี แอลทีดี (HPL) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ KLL ให้แก่ผู้ซื้อ และการแปลงหนี้ใหม่โดยการโอนสิทธิเรียกร้องในจำนวนเงินทั้งหมดที่บริษัท ท๊อป พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ต้องชำระหรือเป็นหนี้อยู่กับบริษัท เคปเปล แลนด์ ไฟแนนเชียล เซอร์วิส พีทีอี แอลทีดี ให้แก่ผู้ซื้อ (หนี้คงค้าง)