(เพิ่มเติม) SCN ซื้อกิจการ"เก้าเจริญ โลจิสติกส์"ดันรายได้ขนส่งเพิ่มเป็น 350 ลบ./ปี

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday March 14, 2016 12:06 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.สแกน อินเตอร์ (SCN) แจ้งว่าบริษัทได้เข้าซื้อ 100% ของบริษัท เก้าเจริญ โลจิสติกส์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้ประกอบการกิจการขนส่ง มูลค่า 93 ล้านบาท เพื่อขยายโอกาสทางธุรกิจขนส่งนอกเหนือจากการขนส่งก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (NGV) ของบริษัท หวังผลักดันรายได้จากธุรกิจขนส่งเพิ่มขึ้นเป็น 350 ล้านบาท/ปี

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 11 มี.ค.บริษัท ได้เข้าทำสัญญากับห้างหุ้นส่วนจำกัด ก้อง ซัพพลาย และผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัท เก้าเจริญ โลจิสติกส์ จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ อ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง และประกอบกิจการขนส่ง ขนถ่ายสินค้า ในบริเวณเขตท่าเรือน้ำลึก แหลมฉบัง และนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด รวมถึงนิคมอุตสาหกรรมอื่นๆ ใน จ.ระยอง และจังหวัดใกล้เคียง ซึ่งการลงทุนดังกล่าวสามารถรับรู้รายได้ได้ทันทีเมื่อบริษัทเข้าซื้อกิจการ

การลงทุนดังกล่าวจะเป็นการขยายโอกาสทางธุรกิจด้านขนส่งก๊าซฯของบริษัท ไปสู่ธุรกิจที่มีกิจการเกี่ยวข้องกัน และเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการบริหารต้นทุนและการเติบโตของรายได้ในอนาคต สามารถสร้างผลตอบแทนรวมทั้งการเติบโตทางธุรกิจอย่างมั่นคงในอนาคต และสร้างมูลค่าเพิ่มและผลตอบแทนสูงสุดให้กับบริษัทและผู้ถือหุ้นในระยะยาว สำหรับแหล่งเงินลงทุนที่ใช้จะมาจากการดำเนินธุรกิจของบริษัทและสถาบันการเงิน

"การเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้ จะเข้ามาช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้แก่การดำเนินธุรกิจให้บริการรับขนส่งก๊าซธรรมชาติ NGV เพื่อรองรับปริมาณสถานีบริการก๊าซ NGV ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นในอนาคต ทั้งที่มาจากการลงทุนของปตท.ที่เราเป็นคู่สัญญาให้บริการรับจ้างขนส่งก๊าซ หรือมาจากการลงทุนขยายสถานีบริการ โดยภาคเอกชนที่เราจะเข้าไปหาลูกค้าเพิ่มเติม ส่งผลให้ SCN สามารถสร้างรายได้จากธุรกิจขนส่งก๊าซ NGV ให้เติบโตได้ดีในอนาคต"นายฤทธี กิจพิพิธ กรรมการบริหาร ผู้อำนวยการสายงานบริหารและการตลาด SCN กล่าว

นายฤทธี กล่าวอีกว่า บริษัท เก้าเจริญ โลจิสติกส์ มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านการรับขนส่ง โดยเป็นคู่สัญญาผู้รับเหมาช่วง (Sub Contract) จากบริษัทยูเซ่นส์ จำกัด ในกลุ่ม NYK ผู้ดำเนินธุรกิจขนส่งจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งการเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้ทำให้บริษัท จะสามารถรับรู้รายได้จากธุรกิจที่รับงานขนส่งสินค้าจากฐานลูกค้าเดิมของเก้าเจริญ โจลิสติกส์

ขณะเดียวกันบริษัทยังสามารถนำทรัพย์สินประเภทหัวรถบรรทุกตลอดจนบุคลากรมาใช้ต่อยอดสร้างโอกาสในการขยายธุรกิจรับขนส่งก๊าซธรรมชาติ NGV ที่ปัจจุบันได้ให้บริการแก่บมจ.ปตท. (PTT) ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นและยังรองรับแผนขยายธุรกิจให้บริการรับขนส่งก๊าซ NGV ไปสู่กลุ่มลูกค้าภาคเอกชนที่ลงทุนทำกิจการสถานีบริการก๊าซ NGV ในอนาคต หลังภาครัฐจะลอยตัวราคา NGV ทำให้ภาคเอกชนมีโอกาสลงทุนขยายสถานีบริการก๊าซ NGV ได้มากขึ้น ซึ่งนับเป็นโอกาสใหม่ๆ ที่บริษัทสามารถเข้าไปขยายการให้บริการขนส่งก๊าซ NGV เพิ่มเติม เพื่อรองรับความต้องการใช้ก๊าซ NGV เป็นเชื้อเพลิงในภาคขนส่งสินค้า ที่คาดว่าจะมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นจากจำนวนการขนส่งสินค้าเพิ่มขึ้นหลังจากไทยก้าวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC)

นอกจากนี้ บริษัทมีแผนนำที่ดินจำนวน 60 ไร่ ใน จ.ระยองติดกับสถานีก๊าซ NGV มาพัฒนาเป็น HUB หรือศูนย์กลางรถขนส่งก๊าซ NGV ไปยังกลุ่มลูกค้าภาคเอกชนที่ลงทุนสถานีบริการทั่วประเทศ จากเดิมที่บริษัทมี HUB อยู่ที่ จ.ปทุมธานีเพียงแห่งเดียว ซึ่งช่วยเพิ่มขีดความสามารถการบริหารต้นทุนและการเติบโตของรายได้จากธุรกิจขนส่งก๊าซ NGV ในอนาคตได้ดียิ่งขึ้นและจะช่วยผลักดันรายได้ในส่วนนี้เพิ่มขึ้นอีกปีละ 150 ล้านบาท หรือคิดเป็นผลตอบแทนจากการลงทุน (IRR) อยู่ที่ 20% จากที่มีรายได้จากการขนส่งก๊าซ NGV ให้แก่ ปตท. เฉลี่ยปีละ 200 ล้านบาท ทำให้คาดว่าจะมีรายได้จากธุรกิจขนส่งก๊าซ NGV เพิ่มเป็น 350 ล้านบาท/ปี


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ