บมจ.สตาร์ส ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) (SMT) จะแตกพาร์เป็นหุ้นละ 1 บาทจากเดิมหุ้นละ 2 บาท พร้อมทั้งจะออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ (วอร์แรนต์) ไม่เกิน 167.3 ล้านหน่วย จัดสรรให้ฟรีแก่ผู้ถือหุ้นเดิมที่สัดส่วน 5 หุ้นเดิมต่อ 1 วอร์แรนต์ รวมถึงจะออกหุ้นกู้ไม่เกิน 1,500 ล้านบาท เพื่อใช้ลงทุนหรือคืนเงินกู้
SMT แจ้งว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวานนี้ อนุมัติการเปลี่ยนแปลงมูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) เป็นหุ้นละ 1 บาทจากเดิมหุ้นละ 2 บาท โดยทุนจดทะเบียนยังคงเดิมที่ 839,164,878 บาท แต่จำนวนหุ้นสามัญเพิ่มขึ้นเป็น 839,164,878 หุ้นจากเดิมที่ 419,582,439 หุ้น พร้อมกันนี้ให้ลดทุนจดทะเบียนโดยยกเลิกหุ้นที่ยังไม่ได้ออกจำหน่าย
หลังจากนั้นให้เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 1,020,771,159 บาท จากเดิมที่ 836,475,966 บาท โดยออกหุ้นเพิ่มทุนใหม่ 184,295,193 หุ้น พาร์หุ้นละ 1 บาท จัดสรรไม่เกิน 167,295,193 หุ้น เพื่อรองรับการใช้สิทธิวอร์แรนต์ SMT-W1 ที่จะออกจำนวนไม่เกิน 167,295,193 หน่วย จัดสรรให้ฟรีกับผู้ถือหุ้นเดิมในอัตราส่วน 5 หุ้นเดิมต่อ 1 วอร์แรนต์ โดยมีอายุ 3 ปี มีอัตราการใช้สิทธิ 1 วอร์แรนต์ต่อ 1 หุ้นใหม่ ที่ราคาใช้สิทธิหุ้นละ 8 บาท
ส่วนหุ้นเพิ่มทุนที่เหลือไม่เกิน 17,000,000 หุ้น เพื่อรองรับการใช้สิทธิวอร์แรนต์ SMT-WB ที่จะออกจำนวนไม่เกิน 17,000,000 หน่วยจัดสรรให้ฟรีกับกรรมการ หรือพนักงานของบริษัท
ทั้งนี้ การเพิ่มทุนดังกล่าวเพื่อนำไปใช้สนับสนุนการลงทุนในธุรกิจของบริษัท และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนภายในกิจการ ทำให้มีความสามารถในการสร้างรายได้ และความสามารถในการทำกำไรเพิ่มขึ้น ซึ่งช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้ถือหุ้นต่อไป
นอกจากนี้ที่ประชุมคณะกรรมการยังอนุมัติการออกหุ้นกู้ไม่เกิน 1,500 ล้านบาท อายุไม่เกิน 10 ปี เพื่อจัดหาเงินทุนสำหรับใช้ในการลงทุน การชำระคืนเงินกู้ หรือเป็นเงินทุนหมุนเวียนทั่วไป รวมถึงเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่หลากหลาย โดยเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับผู้ลงทุนของบริษัท โดยการออกและเสนขายหุ้นกู้จะขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของสภาวะตลาดในขณะที่ออกและเสนอขายหุ้นกู้ในแต่ละครั้ง
นายสมนึก ไชยกุล ประธานกรรมการ SMT เปิดเผยว่า การแตกพาร์ต้องการเพิ่มสภาพคล่องในการซื้อขายหลักทรัพย์ SMT ส่วนวอแรนต์ถือเป็นการตอบแทน ผู้ถือหุ้น เพราะกำหนดระยะเวลาการใช้สิทธิและราคาการใช้สิทธิที่จูงใจเพื่อนำเงินไปใช้ ในการลงทุนในโครงการต่าง ๆ ในอนาคต
ด้านนายพีระพล วิไลวงศ์เสถียร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SMT เปิดเผยถึงแนวโน้มผลประกอบการใน ไตรมาส 1/59 คาดว่า รายได้และกำไรจะสูงขึ้นจากไตรมาส 4/58 อย่างมีนัยสำคัญ แต่หากเทียบกับไตรมาส 1/58 ถือว่าผลการดำเนินงานสามารถพลิกกลับมามีกำไรได้ ขณะที่บริษัทตั้งเป้ายอดขายปีนี้ที่กว่า 8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ทำได้ 7.6 พันล้านบาท
นอกจากนี้บริษัทอยู่ระหว่างรอสรุปและการติดตั้งสายการผลิตให้กับลูกค้าใหม่ 10 ราย ซึ่งจะทยอยในปีนี้ หากสรุปดีลได้คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นในปีนี้จะเพิ่มเป็น 6-9% จากปีก่อนที่ 1.93% จากงาน New product มาสนับสนุน
พร้อมกันนั้น บริษัท คาดว่าจะสามารถล้างขาดทุนสะสมที่มีอยู่ประมาณ 60 ล้านบาท ได้ภายในไตรมาส 2/59 โดยจะนำ กำไรจากการดำเนินงานมาใช้ล้างขาดทุนสะสม และเชื่อว่าในปี 59 จะกลับมาจ่ายปันผลได้อีกครั้ง
ส่วนงบลงทุนในปีนี้ตั้งไว้ที่ 200 ล้านบาท แบ่งเป็นการซื้อและติดตั้งเครื่องจักรใหม่สำหรับงาน New product จำนวน 100 ล้านบาท และการซื้อและปรับปรุงประสิทธิภาพเครื่องจักรสำหรับงานเดิมอีก 100 ล้านบาท ซึ่งแหล่งเงินทุนจะมาจากกระแสเงินสดของบริษัทและเงินกู้จากสถาบันการเงิน
“ปีนี้เรามั่นใจจะสามารถพลิกกลับมามีกำไรได้ จากปีก่อนที่ขาดทุนประมาณ 60 ล้านบาท เพราะปีนี้เรามีตัว New Product ที่เข้ามาเสริม ทำให้มาร์จิ้นสูง ส่งผลต่อเนื่องมายังกำไรสุทธิ SMT เริ่มเห็นตั้งแต่ไตรมาสแรกว่ากำไรดีขึ้น จากงาน New Product ของลูกค้า 3 ราย จึงมั่นใจว่าสามารถนำกำไรมาล้างขาดทุนสะสมได้ ส่วนการจ่ายเงินปันผลต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาของบอร์ดอีกครั้ง" นายพีระพล กล่าว