บมจ.ที ที แอล อุตสาหกรรม (TTL) แจ้งว่าบริษัทยังไม่มีข้อสรุปเรื่องการสรรหาธุรกิจใหม่ได้ในขณะนี้ หลังจากได้ยุติการผลิตและการดำเนินงานด้านสิ่งทอตั้งแต่ปี 57 แม้ผลการศึกษาเบื้องต้นพบว่าแนวโน้มของธุรกิจที่จะประสบความสำเร็จบนที่ดินแปลงดอนเมืองของบริษัทนั้น จะอยู่ในกลุ่มอาคารสำนักงาน, ธุรกิจศูนย์การค้าปลีก , ธุรกิจศูนย์ประชุม/ศูนย์แสดงสินค้า/ศูนย์แสดงคอนเสิร์ต, ธุรกิจโรงแรม, และแบ่งให้เช่าที่ดินบางส่วน ก็ตาม แต่ก็เห็นว่ายังต้องใช้เวลาศึกษาแนวโน้มความเป็นไปได้อย่างถี่ถ้วน ซึ่งหากยังไม่สามารถสรรหาธุรกิจใหม่เพื่อให้มีธุรกิจตามเกณฑ์ตลาดหลักทรัพย์ฯได้ภายในเวลาที่กำหนดคือวันที่ 22 มี.ค.59 ซึ่งอาจจะทำให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) อาจสั่งห้ามซื้อขายหุ้นของบริษัทเป็นการชั่วคราวโดยขึ้นเครื่องหมาย SP หุ้นของบริษัทได้
"บริษัทได้พยายามดำเนินการทุกขั้นตอนให้เป็นไปตามระเบียบ กฎเกณฑ์ และข้อบังคับของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และพยายามเร่งดำเนินการสรรหาธุรกิจใหม่ตามกรอบระยะเวลาที่กำหนด แต่ด้วยบริษัทต้องใช้เวลาในการศึกษาแนวโน้มความเป็นไปได้ของธุรกิจใหม่อย่างละเอียดถี่ถ้วนรอบด้าน เพื่อให้มีความมั่นใจเพียงพอที่จะลงทุน ประเมินความเสี่ยงแล้วอยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้ และได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่าจากการลงทุน จึงยังไม่อาจมีข้อสรุปเรื่องการหาสรรหาธุรกิจใหม่ได้ในขณะนี้"TTL ระบุในเอกสารแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ
กรณีดังกล่าวสืบเนื่องจากการที่บริษัทได้หยุดการผลิตและดำเนินงานด้านสิ่งทอ ซึ่งเป็นส่วนงานเดียวของกิจการตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.57 และได้ดำเนินการจำหน่ายสินค้าคงเหลือ อาคารโรงงาน เครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ใช้ในการดำเนินธุรกิจภายในเดือนก.ย.58 และได้ว่าจ้างสถาบันบัณฑิ ตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA) ศึกษาธุรกิจที่มีแนวโน้มจะประสบความสำเร็จได้บนที่ดินของบริษัทแปลงดอนเมือง โดยผลการศึกษาพบว่าธุรกิจที่มีแนวโน้มจะประสบความสำเร็จ ได้แก่ ธุรกิจค้าปลีก, ธุรกิจศูนย์ประชุมหรือศูนย์แสดงสินค้า, ธุรกิจโรงแรม, ธุรกิจอาคารสำนักงาน, ธุรกิจคลังสินค้า, และธุรกิจด้าน Edutainment
คณะกรรมการบริษัทพยายามเร่งดำเนินการสรรหาธุรกิจใหม่ตามกรอบระยะเวลาที่กำหนด แต่ด้วยสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันที่ต้องใช้ความระมัดระวัง อย่างยิ่งในการพิจารณาตัดสินใจลงทุน ต้องดำเนินการและพิจารณาด้วยความละเอียดรอบคอบเพื่อลดปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ที่จะส่งผลกระทบต่อบริษัทและผู้ถือหุ้น จึงมีความจำเป็นต้องใช้เวลาในการศึกษาประเด็นต่างๆ เพิ่มเติมอีกมาก ซึ่งต่อมาคณะกรรมการบริษัทได้ว่าจ้างบริษัท ดีทีแซด เดเบนทัม ไต เหลียง (ประเทศไทย) จำกัด ศึกษารายละเอียดเชิงลึกของธุรกิจ โดยผลการศึกษาวิจัยมีความใกล้เคียงกับผลการศึกษาของ NIDA ซึ่งระบุว่าธุรกิจที่มีแนวโน้มจะประสบความสำเร็จ ได้แก่ กลุ่มอาคารสำนักงาน, ธุรกิจศูนย์การค้าปลีก , ธุรกิจศูนย์ประชุม/ศูนย์แสดงสินค้า/ศูนย์แสดงคอนเสิร์ต, ธุรกิจโรงแรม, และแบ่งให้เช่าที่ดินบางส่วน เป็นต้น
อย่างไรก็ตามด้วยข้อจำกัดการเจรจาต่างๆทำให้ยังไม่สามารถได้ข้อสรุปเรื่องการสรรหาธุรกิจใหม่ได้ ประกอบกับบริษัทได้ขายที่ดินแปลงจ.ปทุมธานี เป็นเงิน 680 ล้านบาทเมื่อเดือนพ.ย.58 ส่งผลให้ตลท.ประกาศให้บริษัทอาจเข้าข่ายเป็นบริษัทจดทะเบียนที่มีสินทรัพย์ ทั้งหมดหรือเกือบทั้งหมดในรูปเงินสดหรือหลักทรัพย์ระยะสั้น (Cash Company) ตั้งแต่วันที่ 26 พ.ย.58 โดยบริษัทจะต้องดำเนินการให้มีธุรกิจที่มีคุณสมบัติ ที่จะจดทะเบียนกับตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายใน 12 เดือนนับแต่วันที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้รับรายงานแสดงฐานะการเงินที่ถูกต้องครบถ้วนหลัง จากการจำหน่ายสินทรัพย์ซึ่งเมื่อวันที่ 22 ธ.ค.58 บริษัทได้นำส่งรายงานแสดงฐานะการเงินที่ผ่านการสอบทานจากผู้สอบบัญชีถูกต้องครบถ้วนแล้ว ตลาดหลักทรัพย์ฯจึงขึ้นเครื่องหมาย NP หุ้นบริษัทตั้งแต่วันที่ 23 ธ.ค.58 และบริษัทต้องดำเนินการให้มีธุรกิจเป็นไปตามเกณฑ์ที่ตลาดหลักทรัพย์ฯกำหนดภายใน 3 เดือนหรือภายในวันที่ 22 มี.ค.59