อีกทั้งจำนวนเงินประกันการประมูลดังกล่าวไม่ได้ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อสถานะทางการเงิน เนื่องจากเมื่อเทียบกับสินทรัพย์รวมของบริษัทแล้วคิดเป็นเพียง 1.27% เท่านั้น และเงินประกันการประมูลดังกล่าวมาจากทุนชำระแล้วของบริษัท แจส โมบาย บรอดแบนด์ จำกัด (แจสโมบาย) และเงินที่บริษัทให้กู้ยืมซึ่งมีผลกระทบต่อการดำเนินงานของบริษัทในปี 59 รวมจำนวน 644 ล้านบาท
JAS ระบุว่า ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการที่แจสโมบายไม่ได้ไปขอรับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ย่าน 900 MHz ในครั้งนี้นั้นที่ปรึกษากฎหมายของบริษัทได้ให้ความเห็นว่าแจสโมบายต้องถูกริบเงินประกันการประมูลจำนวน 644 ล้านบาท แจสโมบายและกลุ่มบริษัท ไม่มีหน้าที่ต้องรับผิดในค่าเสียหายใดๆ เพิ่มเติม เนื่องจากประกาศคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคมย่าน 900 MHz. ลงวันที่ 18 ก.ย.58 (ประกาศ กสทช.) ไม่ได้ระบุให้ผู้ชนะการประมูลต้องรับผิดชอบในความเสียหายใดๆ เพิ่มเติม นอกเหนือจากเงินประกันการประมูล จำนวน 644 ล้านบาท
โดยข้อ 6. วรรคท้ายของประกาศ กสทช. และข้อ 5 วรรค 2 ของแบบ "หนังสือยินยอมของผู้ขอรับใบอนุญาต" แนบท้ายของประกาศ กสทช. ระบุไว้แต่เพียงว่า "ในกรณีที่ผู้ชนะการประมูลไม่ดำเนินการตามเงื่อนไขก่อนรับใบอนุญาตให้ถูกต้องและครบถ้วนภายในระยะเวลาที่กำหนด ให้ถือว่าผู้ชนะการประมูลนั้นสละสิทธิที่จะได้รับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ย่าน 900 MHz ตามประกาศกสทช. และคณะกรรมการสงวนสิทธิที่จะริบหลักประกันการประมูล" และเหตุดังกล่าวนี้ก็ไม่ได้เป็นเหตุเพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมอื่นๆ ที่กลุ่มบริษัทได้รับจากสำนักงาน กสทช. และใช้ประกอบกิจการอยู่ในปัจจุบัน รวมทั้งการดำเนินธุรกิจของกลุ่มบริษัทยังสามารถดำเนินการได้โดยไม่ได้รับผลกระทบใดๆ ทั้งสิ้น
JAS ชี้แจงกรณีดังกล่าวเพิ่มเติมภายหลังจากเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ได้ชี้แจงมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ยังไม่เป็นข้อมูลที่ครบถ้วนตลาดหลักทรัพย์ฯสอบถาม ทำให้ตลาดหลักทรัพย์ฯยังคงห้ามซื้อขายหุ้น JAS ตลอดทั้งวันของเมื่อวานนี้
เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ JAS แจ้งว่าสาเหตุที่แจสโมบาย ซึ่งเป็นบริษัทย่อยไม่ได้จ่ายค่าใบอนุญาต 4G คลื่นความถี่ 900 MHz หลังไม่สามารถหาหนังสือค้ำประกันจากสถาบันการเงินจำนวนประมาณ 7.2 หมื่นล้านบาทมามอบให้กับสำนักงาน กสทช. ได้ทันภายในกำหนดวันที่ 21 มี.ค.59 เนื่องจากผู้ประกอบการรายใหญ่แห่งหนึ่งของจีน ซึ่งสนใจร่วมลงทุนในแจสโมบาย และได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากธนาคารพาณิชย์แห่งใหญ่ของจีน ยังติดข้อจำกัดในเรื่องของระยะเวลาในการขออนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้องของประเทศจีน ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณกลางเดือนเม.ย.59 ซึ่งไม่ทันกำหนดระยะเวลา 90 วันตามที่ระบุในประกาศของกสทช.
ขณะที่สำนักงานกสทช. ก็ไม่สามารถผ่อนปรน หรือผ่อนผันเงื่อนไขเกี่ยวกับระยะเวลาใดๆ ตามที่ระบุไว้ในประกาศกสทช. ดังกล่าวให้แก่แจสโมบายได้ ทำให้แจสโมบายไม่สามารถนำหนังสือค้ำประกันจากสถาบันการเงินจำนวนดังกล่าว มามอบให้สำนักงานกสทช.ได้ตามกำหนดเวลา