บอร์ด CM อนุมัติโครงการลงทุนสร้างรง.แปรรูปพืชผักแช่แข็งในเมียนมาร์ มูลค่าราว 700 ลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday March 28, 2016 09:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ. เชียงใหม่โฟรเซ่นฟูดส์ (CM) แจ้งว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 2/2559 เมื่อวันที่ 25 มี.ค.59 ได้พิจารณาอนุมัติโครงการลงทุนก่อสร้างโรงงานแปรรูปพืชผักแช่แข็งในประเทศสหภาพสาธารณรัฐเมียนมาร์ โดยมีมูลค่าโครงการรวมประมาณ 700 ล้านบาท (ประมาณ 20 ล้านเหรียญสหรัฐ อ้างอิงอังตราแลกเปลี่ยน ณ 25 มี.ค. ที่ 35.32 บาท/ดอลลาร์) และมีมติให้บริษัทฯ เข้าทำสัญญาจะเช่าที่ดิน เพื่อรองรับโครงการลงทุนดังกล่าว โดยบริษัทจะวางมัดจำค่าเช่าที่ดินในสัดส่วน 50% และภายหลังการจัดตั้งบริษัทย่อยแล้วเสร็จ บริษัทย่อยจะเข้าทำสัญญาเช่าที่ดินกับผู้ให้เช่าต่อไป

ทั้งนี้คาดว่าการก่อสร้างโรงงานจะแล้วเสร็จและเริ่มดำเนินการผลิตได้ภายในปี 61

ก่อนหน้านี้ ที่ประชุมคณะกรรมการ เมื่อวันที่ 14 ส.ค. 57 ได้มีมติอนุมัติการลงทุนและการจัดตั้งบริษัทย่อยแห่งใหม่เพื่อดำเนินการลงทุนในประเทศสหภาพสาธารณรัฐเมียนมาร์ เพื่อขยายการดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายพืชผักแปรรูป/แช่แข็งเพื่อการส่งออก โดยมีงบลงทุนเริ่มแรก 80 ล้านบาท เพื่อการเช่าที่ดินประมาณ 50-100 เอเคอร์

สำหรับโครงการโรงงานแปรรูปพืชผักแช่แข็งในประเทศสหภาพสาธารณรัฐเมียนมาร์ มีวัตถุประสงค์การลงทุนเพื่อขยายกำลังการผลิต และเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ เนื่องจากประเทศสหภาพสาธารณรัฐเมียนมาร์มีพื้นที่เพาะปลูกขนาดใหญ่เหมาะสมกับการเพาะปลูกพืชผักหลากหลายประเภทเพื่อเป็นวัตถุดิบในการผลิตพืชผักแช่แข็ง ซึ่งบริษัทฯ ได้เข้าทำสัญญาเช่าที่ดิน ขนาดพื้นที่ 47.73 เอเคอร์ ซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของ Sein Taung Yar Company Limited โดยมีเงื่อนไขให้ผู้ให้เช่าดำเนินการถมที่ดินและปรับปรุงสภาพที่ดินให้เหมาะสมกับการก่อสร้าง รวมถึงประสานกับหน่วยงานราชการในการเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงคืการใช้ที่ดินเพื่อให้สอดคล้องกับการก่อสร้างโรงงานได้ก่อนการเข้าทำสัญญาเช่าที่ดินกับบริษัทย่อยของบริษัทฯ ที่จะดำเนินการจัดตั้งในประเทศสหภาพสาธารณรัฐเมียนมาร์ ภายในระยะเวลา 9 เดือน นับจากวันที่ 1 เม.ย. 59

ซึ่งบริษัทย่อยที่บริษัทฯ จะจัดตั้งในประเทศสหภาพสาธารณรัฐเมียนมาร์ บริษัทฯจะถือหุ้นไม่น้อยกว่า 60% แต่ไม่เกิน 90% ซึ่งอาจมีผู้ร่วมลงทุนเป็นบุคคลหรือนิติบุคคลที่จดทะเบียนในประเทศไทยหรือประเทศสหภาพสาธารณรัฐเมียนมาร์ หรือประเทศอื่นๆ ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของโครงสร้างการลงทุน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ