บมจ.แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป (LHBANK) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 4/2559 เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2559 มีมติอนุมัติให้บริษัทเข้าลงนามในบันทึกข้อตกลงเกี่ยวกับสัญญาจองซื้อหุ้น (MOU in relation to Share Subscription Agreement:SSA MOU) กับ CTBC Bank Co., Ltd. (CTBC) ในการหาพันธมิตรร่วมทุนเพื่อขยายธุรกิจของธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LH Bank) และในวันนี้บริษัทและ CTBC ได้เข้าลงนามใน SSA MOU เรียบร้อยแล้ว
LHBANK และ CTBC จะดำเนินการต่างๆ ตามขั้นตอนที่เกี่ยวข้องเพื่อทำให้ธุรกรรมดังกล่าวบรรลุผลสำเร็จ ซึ่งรวมถึงการตรวจสอบสถานะของกิจการ (Due Diligence) การเจรจาและเข้าทำสัญญาจองซื้อหุ้น (Share Subscription Agreement) และการดำเนินการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
ภายใต้ SSA MOU บริษัทได้ตกลงในหลักการที่จะออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 7,545 ล้านหุ้นเพื่อเสนอขายต่อ CTBC อันเป็นการเสนอขายต่อบุคคลในวงจำกัด (Private Placement) และ CTBC ตกลงในหลักการที่จะจองซื้อหุ้นดังกล่าวในราคา 2.20 บาทต่อหุ้น ทั้งนี้ ราคาและการเข้าทำธุรกรรมดังกล่าวอาจมีการเปลี่ยนแปลง หรือมีการยกเลิก ในกรณีที่มีผลการตรวจสอบในทางลบอย่างมีนัยสำคัญที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจหรือสถานะทางการเงินของบริษัท อันเนื่องจากการตรวจสอบสถานะของกิจการ (Due Diligence)
ทั้งนี้ เมื่อดำเนินการตามธุรกรรมดังกล่าวเสร็จสิ้น CTBC จะเข้าเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัท ในสัดส่วนเท่ากับสัดส่วนการถือหุ้นรวมกันของ บมจ. แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LH) และ บมจ.ควอลิตี้ เฮ้าส์ (QH) ซึ่งเท่ากับ 35.6% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วของบริษัท โดย LH และ QH จะมีสัดส่วนการถือหุ้นจำนวน 21.9% และ 13.7% ตามลำดับ และบริษัทคาดว่าธุรกรรมดังกล่าวจะดำเนินการแล้วเสร็จประมาณปลายไตรมาส 3/59
นางศศิธร พงศธร (ฉัตรศิริวิชัยกุล) กรรมการผู้จัดการ LHBANK กล่าวว่า ตามบันทึกข้อตกลง LHBANK จะทำการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนเพื่อเสนอขายต่อบุคคลในวงจำกัดให้แก่ CTBC Bank ในราคาหุ้นละ 2.20 บาท คิดเป็นมูลค่าประมาณ 16,599 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้ CTBC Bank เข้ามามีสัดส่วนการถือหุ้นจำนวน 35.6% ใน LHBANK โดยภายหลังจากเสร็จสิ้นขั้นตอนการออกและจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนดังกล่าว CTBC Bank จะเข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารจัดการธุรกิจของธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์
หลังจากการลงนามบันทึกข้อตกลงพันธมิตรในครั้งนี้ จะมีการทำ Due Diligence และการเจรจาเพื่อเข้าทำสัญญาจองซื้อหุ้น (Share Subscription Agreement) โดยการทำธุรกรรมในครั้งนี้ต้องได้รับอนุมัติจากธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ คณะกรรมการกำกับดูแลสถาบันการเงินในไต้หวัน รวมทั้งผู้ถือหุ้นของ LHBANK
นอกจากนี้ LHBANK ได้รับแจ้ง LH และ QH ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทว่า CTBC Bank ได้เข้าลงนามในบันทึกข้อตกลงเกี่ยวกับสัญญาระหว่างผู้ถือหุ้น (MOU in relation to Shareholders Agreement) กับ LH และ QH โดยภายหลังการออกหุ้นเพิ่มทุนให้ CTBC Bank แล้ว ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ทั้งสองรายดังกล่าวจะมีสัดส่วนการถือหุ้นจำนวน 21.9% และ 13.7% ตามลำดับ
นางศศิธร กล่าวว่า การเป็นพันธมิตรระหว่าง LHBANK และ CTBC Bank จะนำไปสู่ความร่วมมือที่จะเอื้อประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองฝ่าย ซึ่งจะทำให้ฐานเงินทุนของธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ โตมากกว่าเท่าตัวหรือกว่า 32,000 ล้านบาท (อัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 เพิ่มเป็น 21.3%) เพื่อเพิ่มศักยภาพในการรองรับการเติบโตและขยายกิจการของบริษัทไปยังภูมิภาค
อีกทั้งยังเป็นการยกระดับการให้บริการทางการเงินของธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ด้วยความเชี่ยวชาญทางด้าน การบริหารการเงินส่วนบุคคล (Wealth Management) ดิจิตอลแบงกิ้ง (Digital Banking) และเทรดไฟแนนซ์ (Trade Finance) ของ CTBC Bank รวมทั้งเป็นการเพิ่มศักยภาพในการดำเนินธุรกิจของบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ได้แก่ บลจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ,บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ และบริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ แอดไวเซอรี่ จำกัด
อนึ่ง CTBC Bank เป็นบริษัทในเครือของ CTBC Financial Holding กลุ่มการเงินขนาดใหญ่จากไต้หวัน ซึ่งเป็นธนาคารเอกชนที่มีสินทรัพย์ขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 1 ของใต้หวัน ที่มีมูลค่ากว่า 1.09 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ และเป็นธนาคารที่มีเครือข่ายและตัวแทน 106 แห่ง ครอบคลุมในกว่า 14 ประเทศ อาทิ สหรัฐอเมริกา แคนาดา ญี่ปุ่น อินเดีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม ฮ่องกง สิงคโปร์ และจีน เป็นต้น นอกจากนี้ CTBC Bank ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (Credit Rating) อยู่ที่ระดับ A2 โดย Moody’s
ขณะที่ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ มีสาขา 127 สาขาทั่วประเทศไทย มีสินทรัพย์รวมกว่า 2 แสนล้านบาท และมีอัตราการเติบโตของสินทรัพย์รวม สินเชื่อรวมและกำไรสุทธิในปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 20.2% 16.8% และ 35.5% ตามลำดับ และได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (Credit Rating) อยู่ที่ระดับ A- โดย TRIS