ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ปลดเครื่องหมาย SP หลักทรัพย์บมจ.พีเออี (ประเทศไทย) (PAE) ตั้งแต่การซื้อขายรอบเช้าวันนี้ (8 เม.ย.) หลังเปิดเผยสาระสำคัญเกี่ยวกับทางเลือกในการฟื้นฟูกิจการผ่านศาลล้มละลายกลาง โดยจะเปิดโอกาสให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ PAE ได้อีกครั้งระหว่างวันที่ 8 เม.ย.-9 พ.ค.59 ก่อนที่จะสั่งห้ามซื้อหรือขายหลักทรัพย์ในระหว่างการปรับปรุงฐานะการเงินและการดำเนินงานในวันที่ 10 พ.ค.59 เนื่องจากบริษัทเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนหลักทรัพย์และอยู่ระหว่างปรับปรุงแก้ไขฐานะการเงินและการดำเนินงานให้เป็นไปตามข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์ฯ
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากตลาดหลักทรัพย์ฯได้ประกาศให้หลักทรัพย์ PAE เข้าข่ายต้องปรับปรุงฐานะการเงินและการดำเนินงานระยะที่ 1 (NC ระยะที่ 1) โดยสั่งห้ามการซื้อขายหลักทรัพย์ของ PAE ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.59 พร้อมทั้งขึ้นเครื่องหมาย NC (Non-Compliance) ตั้งแต่วันที่ 9 มี.ค.59 และกำหนดให้ PAE แจ้งให้ตลาดหลักทรัพย์ทราบภายในวันที่ 7 เม.ย.59 เพื่อเผยแพร่แก่ผู้ถือหุ้นและผู้ลงทุนถึงทางเลือกว่าบริษัทจะทำแผนปรับปรุงฐานะการเงินและการดำเนินงานเสนอผู้ถือหุ้น หรือจะฟื้นฟูกิจการตามพระราชบัญญัติล้มละลาย หรือจะขอเพิกถอนโดยสมัครใจหรือเลือกทางเลือกอื่นใดที่เป็นประโยชน์ต่อบริษัท
โดย PAE ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯว่ามติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทได้มีมติอนุมัติเลือกให้บริษัทดำเนินการฟื้นฟูกิจการผ่านศาลล้มละลายกลางตามพระราชบัญญัติล้มละลาย ตลาดหลักทรัพย์ฯจึงเห็นควรให้ดำเนินการดังนี้
1.อนุญาตให้หลักทรัพย์ของ PAE ซื้อหรือขายได้ระหว่างวันที่ 8 เม.ย.-9 พ.ค.59 และเพื่อให้หลักทรัพย์ดังกล่าวสามารถมีการซื้อขายต่อไปได้ตามสภาพความเป็นจริง ตลาดหลักทรัพย์ฯจึงอาศัยอำนาจตามความในข้อ 29 (1) และ (3) ของข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่อง การซื้อขายการชำระราคาและการส่งมอบหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2555 กำหนดให้ราคาซื้อขายของหลักทรัพย์ PAE ในวันที่ 8 เม.ย. มีราคาสูงสุดและต่ำสุดไม่เกินหนึ่งเท่าจากราคาซื้อขายครั้งสุดท้ายของหลักทรัพย์ และกำหนดให้ราคาซื้อขายของหลักทรัพย์ PAE-W1 มีราคาสูงสุดและต่ำสุดไม่เกินหนึ่งเท่าจากราคาซื้อขายครั้งสุดท้ายของ PAE คูณด้วยอัตราแปลงสภาพ
2. ตลาดหลักทรัพย์จะขึ้นเครื่องหมาย SP ห้ามซื้อหรือขายหลักทรัพย์ของ PAE ตั้งแต่วันที่ 10 พ.ค.59 เป็นต้นไป จนกว่าบริษัทจะสามารถดำเนินการปรับปรุงแก้ไขฐานะการเงินและการดำเนินงานให้เป็นไปตามข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยอาศัยอำนาจตามความในข้อ 7(4) ของข้อบังคับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการเกี่ยวกับการห้ามซื้อหรือขายหลักทรัพย์จดทะเบียนเป็นการชั่วคราว พ.ศ.2555