นายพูลพิพัฒน์ ตันธนสิน ประธานคณะกรรมการบริหาร และกรรมการผู้จัดการ บมจ.คิวทีซี เอนเนอร์ยี่ (QTC) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติให้นำเสนอที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัท ครั้งที่ 1/2559 เพื่อพิจารณาและอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทจาก 200 ล้านบาท เป็น 270 ล้านบาท โดยการออกหุ้นสามัญใหม่จำนวน 70 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท
โดยการเสนอขายต่อบุคคลในวงจำกัด (Private Placement) คือกลุ่มนักลงทุน ซึ่งประกอบด้วย นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ และ/หรือ นางสาวแคทรียา บีเวอร์ และ/หรือ Mr.Chanthamome Phommany และ/หรือ Thathakhone Thammavong ในราคาหุ้นละ 4.70 บาท มูลค่ารวม 329 ล้านบาท ซึ่งราคาดังกล่าวเป็นราคาที่มีส่วนลดร้อยละ 9.80 จากราคาตลาดซึ่งได้แก่ราคาถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของหุ้นสามัญของบริษัทย้อนหลัง 7 วันทำการ ก่อนวันที่คณะกรรมการมีมติให้เสนอวาระที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อขออนุมัติให้บริษัทเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนโดยราคาตลาดของหุ้นสามัญดังกล่าวมีราคาหุ้นละ 5.21 บาท
ทั้งนี้ อนุมัติให้กำหนดวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2559 ในวันที่ 2 มิ.ย. 59 เวลา 14.00 น. ณ โรงแรมดิเอมเมอรัลด์ โดยอนุมัติกำหนดให้วันที่ 3 พ.ค. 59 เป็นวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิในการเข้าร่วมประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2559 และกำหนดวันปิดสมุดทะเบียนเพื่อรวบรวมรายชื่อผู้ถือหุ้นตามมาตรา 225 ของพ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ในวันที่ 4 พ.ค. 59
สำหรับวัตถุประสงค์ของการเพิ่มทุนและการใช้เงินทุนในส่วนที่เพิ่ม เพื่อให้บริษัทมีความพร้อมเพื่อการร่วมลงทุนในธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานทางเลือก นอกจากนี้จะนำไปใช้เพื่อการลงทุนขยายธุรกิจในอนาคต รวมทั้งนำมาใใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนและเสริมสภาพคล่อง
ทั้งนี้ธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานทางเลือกนั้น รวมถึงโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ที่ประเทศญี่ปุ่นที่ยังคงอยู่ระหว่างการดำเนินการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ โดยมีความคืบหน้าของการศึกษาความเป็นไปได้ในเบื้องต้นของโครงการเป็นที่น่าพอใจ และมีความเป็นไปได้ค่อนข้างสูงที่จะมีการเข้าร่วมลงทุนเกิดขึ้นในอนาคต โดยคาดว่าอัตราผลตอบแทนที่ได้รับจากโครงการดังกล่าวจะไม่ต่ำกว่าต้นทุนเงินทุนถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก (WACC)
นอกจากนี้ ยังรวมถึงโครงการโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทางเลือกอื่นๆ ที่บริษัทยังมีแผนจะลงทุนต่อไปในอนาคต ซึ่งอยู่ในระหว่างพิจารราข้อมูลเบื้องต้น และอาจพิจารราลงทุนเพิ่มหากศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการแล้วมีความน่าสนใจและมีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่คุ้มค่าต่อการลงทุนของบริษัท
สำหรับแผนการใช้เงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ จากผลการศึกษาความเป็นไปได้ในเบื้องต้นของโครงการในปัจจุบัน บริษัทคาดว่าจะต้องใช้เงินลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ที่ประเทศญี่ปุ่น ประมาณ 180 ล้านบาท และเงินทุนส่วนที่เหลือจากการลงทุนในโครงการดังกล่าว บริษัทจะเตรียมไว้เพื่อการลงทุนในอนาคต รวมทั้งนำมาใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนและเสริมสภาพคล่องสำหรับการดำเนินธุรกิจ ทั้งนี้คาดว่าช่วงเวลาที่จะใช้เงินที่ได้จากการระดมทุนนั้นจะอยู่ในระหว่างเดือนมิ.ย. 59 - ธ.ค. 60