บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) ระบุว่าบริษัทยังคงประมาณการเป้าหมายผลการดำเนินงานสำหรับปี 2559 โดยอุตสาหกรรมโทรคมนาคมมีเหตุการณ์สำคัญหลายอย่างเกิดขึ้น หลังจากผลการประมูลใบอนุญาตคลื่นความถี่ 1800 เมกะเฮิรตซ์ และ 900 เมกะเฮิรตซ์ ในช่วงปลายปีที่แล้ว ในประมาณการสำหรับปี 2559 ที่บริษัทประเมินไว้ในช่วงต้นปี บริษัทคาดว่าการปิดบริการระบบ 2G บนคลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์ อาจมีผลกระทบต่อรายได้จากการให้บริการ แต่ขณะนี้มาตรการเยียวยาลูกค้าที่ยังคงใช้งานบนคลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์ ได้ถูกขยายออกไปจนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2559 หรือจนกว่าคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) จะให้ใบอนุญาต 900 เมกะเฮิรตซ์ แก่ผู้ชนะการประมูลที่จะจัดขึ้นใหม่ในวันที่ 27 พฤษภาคม 2559 นี้
บริษัทยังคงทำแคมเปญอุดหนุนค่าเครื่องโทรศัพท์เพื่อโอนย้ายลูกค้าให้มาใช้งาน 3G/4G อย่างต่อเนื่องในไตรมาส 1/2559 โดยคาดว่าจะใช้งบประมาณสำหรับแคมเปญดังกล่าว รวมถึงค่าใช้จ่ายด้านโรมมิ่งที่อาจเกิดขึ้น รวมเป็นเงิน 8,000 ล้านบาท รวมทั้งได้เสริมความครอบคลุมและความจุของโครงข่าย 3G-2.1 กิกะเฮิรตซ์ เพิ่มเติม ทั้งนี้ หากมีการเปลี่ยนแปลงในประมาณการเนื่องจากสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป บริษัทจะแจ้งให้แก่นักลงทุนทราบต่อไป
โดยเป้าหมายในปี 2559 คาดว่ารายได้จากการให้บริการ ไม่รวมค่าเชื่อมโยงโครงข่าย คาดว่าจะใกล้เคียงกับปีก่อนหน้านี้ และคาดว่ารายได้จากการขายเครื่องโทรศัพท์จะใกล้เคียงกับปีก่อนหน้านี้ โดยมีอัตรากำไร 3-4% ขณะที่คาดว่าอัตรากำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ,ภาษี,ค่าเสื่อม และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA margin) รวมจะอยู่ที่ประมาณ 37-38% และคาดว่ากระแสเงินสดในการลงทุนจะอยู่ที่ประมาณ 40,000 ล้านบาท รวมถึงยังคงนโยบายจ่ายปันผล 100% ของกำไรสุทธิ
สำหรับในไตรมาส 1/2559 บริษัทมี EBITDA อยู่ที่ 13,415 ล้านบาท ลดลง 26% เทียบกับปีก่อน และลดลง 22% เทียบกับไตรมาสก่อน โดยมีสาเหตุหลักมาจากค่าใช้จ่ายแคมเปญอุดหนุนค่าเครื่องโทรศัพท์ และผลจากการบันทึกรายการพิเศษค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับการบริการโทรคมนาคมพื้นฐานโดยทั่วถึงและบริการเพื่อสังคม (USO) ส่งผลให้ อัตรา EBITDA รวม ลดลงมาอยู่ที่ 36.0% จาก 43.2% ในไตรมาส 4/2558 และอัตรา EBITDA ด้านบริการลดลงมาอยู่ 42.5% จาก 55.1% ในไตรมาส 4/2558
ทั้งนี้ กำไรสุทธิ อยู่ที่ 8,073 ล้านบาท ลดลง 18% เทียบกับปีก่อน และ 25% เทียบกับไตรมาสก่อน หากไม่รวมผลของรายการพิเศษค่าธรรมเนียม USO หลังภาษีจำนวน 1,767 ล้านบาท และผลประโยชน์ภาษีเงินได้รอการตัดบัญชีจำนวน 919 ล้านบาท (โปรดอ่านเหตุการณ์สำคัญ) กำไรสุทธิหลังปรับปรุงรายการพิเศษจะเท่ากับ 8,921 ล้านบาท ลดลง 9.9% เทียบกับปีก่อน และ 17% เทียบกับไตรมาสก่อน
ณ สิ้นไตรมาส 1/2559 บริษัทมีลูกค้ารวมทั้งสิ้น 38.9 ล้านเลขหมาย จากเลขหมายระบบเติมเงินที่เพิ่มขึ้น 459,000 เลขหมาย และเลขหมายระบบรายเดือนที่ลดลง 18,800 เลขหมาย โดยลูกค้าระบบเติมเงินที่เพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากการทำแคมเปญอุดหนุนค่าเครื่องโทรศัพท์ที่มีกลุ่มลูกค้าหลักเป็นลูกค้าระบบเติมเงิน ในขณะที่รายได้เฉลี่ย/เลขหมาย/เดือน (ARPU) ของลูกค้าระบบเติมเงินค่อนข้างคงที่ที่ 194 บาท ทั้งนี้ ลูกค้า 2G จำนวนมากที่โอนย้ายไปยังระบบ 3G/4G ได้เริ่มมีการใช้งานอินเทอร์เน็ต ทำให้อัตราการใช้งานอินเทอร์เน็ต/เลขหมายที่ใช้งานอินเทอร์เน็ต /เดือน (VOU) ยังคงเพิ่มขึ้นเป็น 2 กิกะไบต์ และจำนวนนาที/เลขหมาย/เดือน (MOU) ลดลงเป็น 272 นาที จากแนวโน้มการโทรที่ลดลง
ในส่วนของลูกค้าระบบรายเดือน มีสาเหตุการลดลงของจำนวนเลขหมายจากช่องทางจัดจำหน่ายที่ต้องทำการโอนย้ายลูกค้า 2G เป็นหลัก ทำให้ยอดลูกค้าใหม่บนระบบรายเดือนลดลง ทั้งนี้ แม้ว่า ARPU และ MOU ของลูกค้าระบบรายเดือนจะลดลงเป็น 608 บาท และ 320 นาที ตามลำดับ แต่ VOU ยังคงเติบโตขึ้นเป็น 2.7 กิกะไบต์ โดยได้แรงสนับสนุนจากแพ็กเกจรูปแบบใหม่ที่ออกขาย โดยภาพรวม จากจำนวนลูกค้าระบบเติมเงินที่มีมากกว่าระบบรายเดือน ทำให้ ARPU และ MOU ของเลขหมายรวมลดลงมาอยู่ที่ 251 บาท และ 279 นาที ตามลำดับ ในขณะที่ VOU ยังคงเติบโตเป็น 2.2 กิกะไบต์