บมจ.ลีซ อิท (LIT) แจ้งว่า ล่าสุดบริษัทได้ลงนามสนับสนุนวงเงินสินเชื่อประเภทสัญญาเช่าทางการเงิน (Leasing) และสัญญาเช่าซื้อ (Hire Purchase) กับลูกค้า 3 โครงการ เป็นมูลค่าทั้งสิ้น 94.02 ล้านบาท ได้แก่ โครงการเช่าเหมาบริการเครื่องคอมพิวเตอร์พร้อมอุปกรณ์ต่อพ่วง จำนวน 1,309 เครื่อง รวมเป็นมูลค่าสัญญาทั้งสิ้น 35.67 ล้านบาทตั้งแต่วันที่ 13 พ.ค.59 -13 เม.ย.62 โดยมีเงื่อนไขชำระเงินเป็นงวด จำนวนทั้งสิ้น 36 งวด ตามสัญญาที่กำหนดไว้
รวมทั้ง โครงการเช่าซื้ออุปกรณ์ต่างๆ รวมเป็นมูลค่าทั้งสัญญาทั้งสิ้น 38.85 ล้านบาท นับตั้งแต่วันที่ 30 เม.ย.59-30 เม.ย.61 โดยมีเงื่อนไขชำระเงินเป็นงวด จำนวนทั้งสิ้น 24 งวด ตามสัญญาที่กำหนดไว้ และ โครงการเช่าเหมาบริการเครื่องคอมพิวเตอร์พร้อมอุปกรณ์ต่อพ่วง จำนวน 669 เครื่อง รวมเป็นมูลค่าสัญญาทั้งสิ้น 19.5 ล้านบาท นับตั้งแต่วันที่ 9 พ.ค.59-18 เม.ย.62 โดยมีเงื่อนไขชำระเงินเป็นงวด จำนวนทั้งสิ้น 36 งวดตามสัญญาที่กำหนดไว้
การได้สัญญาสินเชื่อมาเพิ่มอีก 3 สัญญา มูลค่าเกือบ 100 ล้านบาท ทำให้พอร์ตสินเชื่อลีสซิ่งของบริษัทฯเติบโตขึ้น สร้างรายได้ให้กับบริษัทอย่างสม่ำเสมอในระยะยาว ผลักดันให้ผลประกอบการเติบโตอย่างต่อเนื่องตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยในปีนี้บริษัทยังคงเป้าหมายสินเชื่อ รายได้และกำไรเติบโตไม่ต่ำกว่า 30% ทั้งในแง่ของยอดสินเชื่อคงค้างหรือ Portfolio รายได้ และกำไรสุทธิ ซึ่งเป็นไปตามแผน 3 ปี (ปี 57-59) นับตั้งแต่เข้าจดทะเบียนในตลาดณ
นายสมพล เอกธีรจิตต์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ลีซ อิท (LIT) เปิดเผยว่า สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/59 บริษัทฯมีรายได้รวม 56.38 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.70 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 32.10% กำไรสุทธิ 20.04 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.37 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 28% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากได้รับปัจจัยหนุนจากรัฐบาลเดินหน้าขยายการลงทุนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และการเปลี่ยนวิธีการประมูลของภาครัฐรูปแบบใหม่ โดยหันมาใช้ระบบ E-Bidding แทน E-Auction ซึ่งทำให้มีผู้ประกอบการเอสเอ็มอีหน้าใหม่ เข้ามาร่วมประมูลมากขึ้น ทำให้สินเชื่อของบริษัทเติบโตอย่างแข็งแกร่ง
โดยในไตรมาส 1/59 ยอดปล่อยสินเชื่อใหม่อยู่ที่ 1,481 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 397 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น. 36.62% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน พอร์ตสินเชื่อคงค้างอยู่ที่ 1,134 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 73 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.88% เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2558 พอร์ตสินเชื่อคงค้างอยู่ที่ 1,061 ล้านบาท
แม้ภาพรวมเศรษฐกิจจะชะลอตัว แต่ในแง่ของการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง เห็นได้จากพอร์ตสินเชื่อรวมที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับปัจจัยหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ และการที่เราเดินหน้าขยายฐานกลุ่มลูกค้าเอสเอ็มอี ที่มีความต้องการสินเชื่อสูง แต่ยังมีข้อจำกัดในการเข้าถึงสินเชื่อ ผลงานของไตรมาส 1 ถือได้ว่าเป็นไปตามเป้าหมายที่บริษัทฯกำหนดไว้ ซึงโดยปกติในไตรมาสที่ 1 จะเป็นไตรมาสที่จะมีกิจกรรมทางธุรกิจต่ำที่สุดตามผลของฤดูกาล (Seasonal Effect) แต่ผลงานที่ออกมาบริษัทฯยังคงสามารถทำกำไรรายไตรมาสได้สูงสุดนับตั้งแต่จัดตั้งบริษัทฯ ซึ่งจากนี้ไปในไตรมาสที่เหลือจะเป็นไตรมาสที่จะมีกิจกรรมทางธุรกิจที่เข้มข้นมากขึ้นตามผลของฤดูกาล (Seasonal Effect) และฝ่ายบริหารคาดหวังและจะพยายามสร้างผลการดำเนินงานให้เติบโตอย่างต่อเนื่องต่อไป ตอกย้ำ ลีซ อิท ไม่ใช่ ลิซ ไอที ซึ่งมีจุดแข็งในการอนุมัติสินเชื่อให้กับลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว ให้วงเงินสูง และไม่จำเป็นต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน โดยเฉพาะให้บริการสินเชื่อกับลูกค้า SME ที่ทำงานราชการ ซึ่งเรามีความชำนาญเป็นพิเศษ
"นอกจากสัญญาลีสซิ่งแล้ว ลีซ อิท ยังได้รายได้จากการใช้บริการสินเชื่อจัดหาสินค้า หรือ Trade Finance เพื่อจัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วงไปทำการติดตั้งที่หน่วยงานการศึกษาแห่งหนึ่งข้างต้นด้วย"นายสมพลกล่าว