บมจ.จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ (GRAMMY) แจ้งว่ากลุ่มบริษัทยังไม่จ่ายค่าธรรมเนียมใบอนุญาตทีวีดิจิตอล งวดที่ 3 ซึ่งครบกำหนดเมื่อวานนี้ (23 พ.ค.) หลังศาลปกครองกลางได้รับไต่สวนคำร้องขอความคุ้มครองชั่วคราวกรณีการฟ้องร้องสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) โดยศาลฯได้นัดไต่สวนคำร้องดังกล่าวในวันที่ 27 พ.ค.นี้ บริษัทจึงเห็นอันสมควรและจำเป็นที่จะต้องรอการชำระค่าธรรมเนียมงวด 3 ออกไปก่อน จนกว่าศาลฯจะพิจารณาและมีคำสั่งตามคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราว
ทั้งนี้ ตามที่บริษัท จีเอ็มเอ็ม แชนแนล จำกัด และบริษัท จีเอ็มเอ็ม วัน ทีวี จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย และบริษัทร่วมค้าของ GRAMMY เป็นผู้ชนะการประมูลและได้รับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่และประกอบกิจการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล แต่เนื่องจากการให้บริการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอลดังกล่าว ประสบปัญหาและผลกระทบหรือความเสียหายจากการละเลยต่อหน้าที่ของสำนักงานกสทช. อันเกิดจากความไม่พร้อม ความล่าช้า ไม่เสถียรและไม่เป็นไปตามมาตรฐานและกรอบเวลาตามที่กฎหมายกำหนดในการเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบบดิจิตอล
โดยการละเลยต่อหน้าที่ของกสทช. ทำให้บริษัทย่อยและบริษัทร่วมค้าของบริษัทได้รับความเสียหาย บริษัทย่อยและบริษัทร่วมค้า จึงได้ยื่นฟ้องคดีต่อศาลปกครองกลาง เป็นคดีหมายเลขดำที่ 1962/2558 และ 1539/2558 เมื่อวันที่ 24 ส.ค.58 และต่อมาในวันที่ 12 พ.ค.59 บริษัทย่อยและบริษัทร่วมค้า ร่วมกับผู้ประกอบการที่ได้รับใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่และประกอบกิจการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอลรายอื่น ได้ยื่นคำร้องต่อศาลปกครองกลางขอให้ศาลมีคำสั่งกำหนดมาตรการและวิธีการเพื่อบรรเทาทุกข์เป็นการชั่วคราว ก่อนการพิพากษาหรือกำหนดวิธีการเพื่อคุ้มครองประโยชน์ระหว่างการพิจารณา
ทั้งนี้ ขอให้ศาลปกครองกลางมีคำสั่งให้กสทช. กับพวก ใช้อำนาจตามกฎหมายกำหนดมาตรการเยียวยาความเสียหายแก่ผู้ฟ้องคดี รวมถึงให้ผ่อนผันการชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ในงวดที่ 3 (ค่าธรรมเนียมงวดที่ 3) ที่จะครบกำหนดชำระในวันที่ 23 พ.ค.ออกไป และปรับลดอัตราค่าธรรมเนียมเพิ่ม หรือดอกเบี่ย (หากมี) ลง
บริษัทย่อย และบริษัทร่วมค้า ยืนยันว่ายังคงมีเจตนาและความตั้งใจที่จะประกอบกิจการทีวีดิจิตอลต่อไป เพื่อให้สาธารณชนได้รับชมรายการทีวีดิจิตอลที่มีคุณภาพอย่างต่อเนื่อง และพร้อมที่จะปฏิบัติตามกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป ซึ่งในวันที่ 23 พ.ค.ที่ผ่านมา ศาลฯมีคำสั่งรับไต่สวนคำร้องขอความคุ้มครองชั่วคราว โดยศาลฯได้นัดวันไต่สวนคำร้องดังกล่าวในวันที่ 27 พ.ค.นี้ และขณะนี้คำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวดังกล่าวยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลฯ จึงเห็นว่ามีเหตุอันสมควร และจำเป็นที่จะต้องรอการชำระค่าธรรมเนียมงวดที่ 3 ออกไปก่อน จนกว่าศาลฯจะได้พิจารณาและมีคำสั่งตามคำร้องขอความคุ้มครองชั่วคราวดังกล่าว
เมื่อศาลฯมีคำสั่งตามคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวดังกล่าวแล้ว บริษัทย่อยและบริษัทร่วมค้า ก็จะพิจารณาปฏิบัติให้สอคคล้องกับกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อ ทั้งนี้ ตามสิทธิที่บริษัทย่อยและบริษัทร่วมค้า พึงมีตามกฎหมายต่อไป