บมจ.ปูนซีเมนต์นครหลวง (SCCC) แจ้งว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 22 ก.ค.อนุมัติให้บริษัท อินทรี ซีเมนต์ โฮลดิ้งส์ จำกัด (ICHC) ซึ่งเป็นบริษัทลูก เข้าซื้อหุ้น 98.95% ในบริษัท โฮลซิม (ลังกา) ลิมิเต็ด (HLL) ซึ่งรวมถึงบริษัทย่อยของ HLL จากลาฟาร์จโฮลซิม มูลค่าไม่เกิน 1.3 หมื่นล้านบาท หรือเท่ากับ 373.47 ล้านเหรียญสหรัฐ โดย HLL เป็นผู้ผลิตปูนเม็ดแต่เพียงผู้เดียวในเขตปัตตาลัม ที่มีโรงงานผลิตปูนซีเมนต์แบบครบวงจร ขนาด 1.3 ล้านตัน/ปีในประเทศศรีลังกา
สำหรับแหล่งเงินทุนที่ใช้คือวงเงินตามสัญญาให้การสนับสนุนทางการเงินจากธนาคารแห่งโตเกียว-มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ (บีทีเอ็มยู) โดยมีระยะเวลา 1 ปี ซึ่งการเข้าซื้อหุ้นครั้งนี้คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 2 สัปดาห์นับจากวันลงนามในสัญญาที่มีขึ้นเมื่อวันที่ 22 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยการลงทุนครั้งนี้จะทำให้เกิดการกระจายตลาดสู่ภูมิภาคอื่น และยังเป็นการสร้างเครือข่ายในระดับทวีปด้วย
SCCC ระบุว่าบริษัทได้ลงนามสัญญาซื้อขายหุ้นของบริษัท โฮลซิม (ลังกา) ลิมิเต็ด ฉบับวันที่ 22 ก.ค.59 กับ โฮลเดอร์ ฟิน บี.วี. (Holderfin B.V.) ซึ่งเป็นบริษัทลูกของลาฟาร์จโฮลซิม ซึ่งการเข้าซื้อหุ้นบริษัทดังกล่าวจะดำเนินการโดย ICHC ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ SCCC และอยู่ในระหว่างขั้นตอนการจัดตั้งบริษัท
ทั้งนี้ HLL มีบริษัทย่อยทางตรง 2 แห่ง ได้แก่ ซีลอน แอมบูจา ซีเมนต์ (พีวีที) ลิมิเต็ด ถือหุ้น 100% ซึ่งเป็นผู้นำเข้า จัดเก็บ บรรจุและจำหน่ายซีเมนต์ และลาฟาร์จ มหาเวลี ซีเมนต์ (พีวีที) ลิมิเต็ด ถือหุ้น 90% เป็นผู้นำเข้ากองซีเมนต์และซีเมนต์ถุง
HLL เป็นผู้ผลิตปูนเม็ดแต่เพียงผู้เดียวในเขตปัตตาลัมที่มีโรงงานผลิตปูนซีเมนต์แบบครบวงจร มีกำลังการผลิตเท่ากับ 1.3 ล้านตัน/ปี และเข้าถึงแหล่งหินปูนแต่เพียงแห่งเดียวของประเทศศรีลังกา นอกจากนี้ HLL ยังมีโรงานบดปูนซีเมนต์ในเขตแกลเล มีกำลังการผลิตเท่ากับ 1 ล้านตัน/ปี และบริหารจัดการสถานีปลายทาง 3 แห่ง ซึ่งสามารถทำการบรรจุสินค้า ณ ท่าเรือท้องถิ่น 3 แห่งในศรีลังกา โดยมีปริมาณการนำเข้า 1.6 ล้านตัน/ปี
HLL ดำเนินธุรกิจในฐานะผู้จัดหาผลิตภัณฑ์เพื่อการใช้สอยแต่เพียงผู้เดียวที่ตอบสนองต่อความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภค และเป็นผู้ริเริ่มนำปูนซีเมนต์ผสมเข้ามายังอุตสาหกรรมซีเมนต์ เครื่องหมายทางการค้าในประเทศศรีลังกาของ HLL เช่น Sanstha ได้รับการตอบรับและเป็นที่นิยมและรู้จักอย่างแพร่หลายในตลาด
นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายทำให้สามารถใช้ได้ทั้งสำหรับที่อยู่อาศัย อาคารพาณิชย์ และโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ โดย HLL มีความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้ารายใหญ่ที่มีชื่อเสียงต่าง ๆ มาอย่างยาวนาน และเข้าไปมีส่วนร่วมในโครงการที่สำคัญ ๆ ของประเทศศรีลังกาหลากหลายโครงการ รวมถึงยังให้การสนับสนุนโครงข่ายร้านค้าปลีกและผู้จัดจำหน่ายทั่วประเทศ ซึ่งมีผู้จัดจำหน่ายประมาณ 120 ราย และร้านค้าปลีกกว่า 5 พันร้าน เพื่อให้มีสินค้าวางขายและจำหน่ายต่อผู้บริโภครายย่อย
ทั้งนี้ บริษัทจะชำระเงินมูลค่าสิ่งตอบแทนให้แก่ผู้ขายเมื่อการเข้าซื้อหุ้นเสร็จสมบูรณ์ ซึ่งแหล่งเงินทุนที่ใช้คือวงเงินตามสัญญาให้การสนับสนุนทางการเงินจากธนาคารแห่งโตเกียว-มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ โดยมีระยะเวลา 1 ปี
สำหรับผลประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับนั้นจะเป็นการกระจายตลาดสู่ภูมิภาคอื่น และสร้างประโยชน์มูลค่าเพิ่มจากการใช้บริการสนับสนุนธุรกิจร่วมกัน รวมถึงเป็นโอกาสในการสร้างเครือข่ายในระดับทวีป ตลอดจนการควบรวมกับผู้ผลิตวัตถุดิบผลิตปูนเม็ดจาก SRB โดย HLL จะได้ประโยชน์จากการรับซื้อส่วนเกินของ SRB จากสถานการณ์ในตลาดที่ขาดแคลนปูนเม็ด สร้างโอกาสที่จะได้รับประโยชน์จากการเติบโตของตลาดในระยะยาว เนื่องจากศรีลังกามีปริมาณความต้องการในตลาดภายในที่เข้มแข็ง
นอกจากนี้ในระยะยาวอาจมีโอกาสใหม่ ๆ ในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ขั้นสูงในการก่อสร้าง เพื่อตอบสนองระยะเวลาในการก่อสร้างที่สั้นลง เช่น ปูนผสมสำเร็จรูป และผลิตภัณฑ์ไม้คอนวูด