บมจ. อินทัช โฮลดิ้งส์ (INTUCH) เปิดเผยมุมมองของผู้บริหารในปี 59 ว่า รายได้จากการขายและการให้บริการคาดว่าจะไม่เติบโตจากปี 58 จากเดิมคาดว่าจะเติบโต 3-5% เนื่องจากคาดว่ารายได้จากการขายและบริการของ บมจ.ไทยคม (THCOM) จะไม่เติบโต จากการลดการใช้บริการดาวเทียมแบบทั่วไปตามสภาวะอุตสาหกรรมบรอดคาสต์ที่กำลังอยู่ในช่วงชะลอตัว
อย่างไรก็ตาม ในช่วงปลายเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา THCOM ประสบความสำเร็จในการนำดาวเทียมไทยคม 8 ขึ้นสู่วงโคจร จึงทำให้ปัจจุบันไทยคมมีดาวเทียมแบบทั่วไปจำนวน 4 ดวงอยู่ในวงโคจร ได้แก่ ดาวเทียมไทยคม 5 ไทยคม 6 ไทยคม 7 และไทยคม 8 โดยมีจำนวนช่องสัญญาณของดาวเทียมรวม 111 ช่องสัญญาณ และมีดาวเทียมประเภทบรอดแบนด์จำนวน 1 ดวงคือ ดาวเทียมไทยคม 4
ส่วนธุรกิจของ บมจ.แอดวานซื อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) หรือ เอไอเอส ที่ INTUCH มีสัดส่วนการลงทุนอยู่ที่ 40.45% นั้น เอไอเอสปรับเป้าประมาณการรายได้จากการให้บริการ (ไม่รวมค่าเชื่อมโยงโครงข่าย) เป็นเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปี 58 หลังจากเอไอเอสชนะการประมูลคลื่นความถี่ 900 เมกะเฮิรตซ์เมื่อปลายเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ทำให้เอไอเอสสามารถรักษาฐานลูกค้า 2G เอาไว้ ประกอบกับปริมาณความต้องการใช้งานบริการ 3G และ 4G ยังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
และ ไอเอเอสได้ปรับประมาณการอัตรา EBITDA margin เพิ่มเป็น 38-39% เนื่องจากคาดว่ารายได้จากการให้บริการในช่วงครึ่งหลังของปี 59 จะปรับตัวดีขึ้น และค่าใช้จ่ายในการย้ายลูกค้า 2G มีแนวโน้มลดลง
ทั้งนี้ เอไอเอสได้ขยายโครงข่าย 4G ให้ครอบคลุมพื้นที่สำคัญทั่วประเทศตั้งแต่สิ้นไตรมาส 1/59 และจะครอบคลุมประชากรร้อยละ 80 ได้ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งเร็วกว่าแผนเดิมที่ตั้งไว้ โดยเงินลงทุนยังคงไว้ที่ประมาณ 4 หมื่นล้านบาทสำหรับปี 59 ทั้งการขยายโครงข่ายทั้ง 3G และ 4G
ขณะที่ INTUCH ชี้แจงผลประกอบการในไตรมาส 2/59 มีกำไรสุทธิรวม 7,717 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 89% และ 123% จากไตรมาส 2/58 และไตรมาส 1/59 ตามลำดับ ส่วนใหญ่เป็นผลจากการปรับปรุงประมาณการหนี้สินของ บมจ.ไอทีวี โดยการกลับรายการประมาณการดอกเบี้ยของสัญญาอนุญาตให้ดำเนินการส่วนต่าง จำนวน 3,691 ล้านบาท (สุทธิจากการแบ่งปันกำไรส่วนที่เป็นของส่วนได้เสียที่ไม่มีอำนาจควบคุม)
อย่างไรก็ตาม หากไม่รวมการกลับรายการดังกล่าว กำไรสุทธิรวมสำหรับไตรมาส 2/59 มีจำนวน 4,026 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อยจากไตรมาส 2/58 แต่เพิ่มขึ้น 16% จากไตรมาสที่ผ่านมา ทั้งนี้เป็นผลจากส่วนแบ่งผลกำไรจากธุรกิจโทรคมนาคมไร้สายภายในประเทศ ซึ่งดำเนินงานโดยกลุ่มเอไอเอส
เมื่อเปรียบเทียบกับงวด 6 เดือนของปี 58 กำไรสุทธิรวมเพิ่มขึ้น 37% ส่วนใหญ่เป็นผลจากการปรับปรุงประมาณการหนี้สินของไอทีวี แต่หากไม่รวมการกลับรายการดังกล่าว กำไรสุทธิรวมลดลง 9% ส่วนใหญ่จากการลดลงของส่วนแบ่งผลกำไรจากธุรกิจโทรคมนาคมไร้สายภายในประเทศ