บมจ.เอ็กโซติค ฟู้ด (XO) แจ้งว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 26 ส.ค.ที่ผ่านมา อนุมัติงบลงทุนและการลงทุนเพิ่มเติมในโครงการก่อสร้างโรงงานแห่งที่ 2 ที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จ.ระยอง เป็นราว 380 ล้านบาท จากเดิมที่ 250 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้างคาดว่าจะสามารถดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์ได้ภายในไตรมาส 4/59
การลงทุนและงบลงทุนเพิ่มเติมในโครงการก่อสร้างโรงงานแห่งที่ 2 ประกอบด้วย อาคารโรงงานและระบบสาธารณูปโภค ,เครื่องจักรและอุปกรณ์ เครื่องตกแต่งและติดตั้งเครื่องใช้สำนักงานและโปรแกรมคอมพิวเตอร์ โดยการลงทุนและงบลงทุนเพิ่มเติมในโครงการดังกล่าว ช่วง 6 เดือน ได้แก่ อาคารโรงานและระบบสาธารณูปโภค จำนวน 98 ล้านบาท ,เครื่องจักรและอุปกรณ์ 29.5 ล้านบาท และเครื่องตกแต่งและติดตั้ง เครื่องใช้สำนักงานและโปรแกรมคอมพิวเตอร์ 2.5 ล้านบาท
ทั้งนี้ สำหรับงบลงทุนซึ่งบริษัทได้เปิดเผยในแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหุ้นและหนังสือชี้ชวนของบริษัท ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 15 ส.ค.57 ว่ามูลค่าการลงทุนก่อสร้างโรงงานและซื้อเครื่องจักรดังกล่าวอยู่ที่ราว 250 ล้านบาทนั้น เมื่อรวมกันแล้วเงินลงทุนรวมในโครงการก่อสร้างโรงงานแห่งที่ 2 จะมีจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 380 ล้านบาท ประกอบด้วย อาคารโรงงานและระบบสาธารณูปโภค จำนวน 178 ล้านบาท ,เครื่องจักรและอุปกรณ์จำนวน 199.5 ล้านบาท และเครื่องตกแต่งและติดตั้ง เครื่องใช้สำนักงานและโปรแกรมคอมพิวเตอร์ จำนวน 2.5 ล้านบาท
สำหรับการลงทุนเพิ่มเติมในการก่อสร้างโรงงานแห่งที่ 2 ดังกล่าวนั้น การลงทุนในอาคารและระบบสาธาณูปโภคเพิ่มเติม จะช่วยเพิ่มโอกาสในการดำเนินธุรกิจ รองรับการเติบโตของยอดขาย และการขยายกำลังการผลิตในอนาคต โดยบริษัทไม่จำเป็นต้องก่อสร้างอาคารโรงงานอีก หากมีการเพิ่มสายการผลิตเพื่อขยายกำลังการผลิต เนื่องจากอาคารโรงงานมีพื้นที่เพียงพอที่จะรองรับการเพิ่มสายการผลิตได้อีก 4 สาย นอกจากนี้การก่อสร้างหรือต่อเติมอาคารโรงงานภายหลังจากที่ดำเนินการผลิตแล้ว นอกจากจะมีต้นทุนค่าก่อสร้างโดยรวมสูงกว่าการก่อสร้างให้แล้วเสร็จเพียงครั้งเดียวแล้ว ยังจะทำให้เกิดความเสี่ยงที่ผลิตภัณฑ์อาหารจะถูกปนเปื้อนจากฝุ่นละอองต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างการก่อสร้างด้วย
ขณะที่การลงทุนเพิ่มในเครื่องจักรและอุปกรณ์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตจากการใช้เครื่องจักรที่เป็นระบบอัตโนมัติให้มากที่สุด ซึ่งส่งผลให้บริษัทมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้นในอนาคต และลดความเสี่ยงจากการขาดแคลนแรงงาน
สำหรับแหล่งเงินทุนที่ใช้ คาดว่าจะได้รับแหล่งเงินทุนจำนวน 138.4 ล้านบาท จะมาจากเงินทุนหมุนเวียนจากการประกอบกิจการของบริษัทจำนวน 68.35 ล้านบาท ,การทำสัญญาเช่าซื้อ 5.05 ล้านบาท สัญญามีระยะเวลาการเช่า 4-5 ปี ซึ่งจะสิ้นสุดในปี 64 และมีกำหนดชำระค่าเช่ารายเดือนเดือนละ 116,618 บาท และเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินจำนวน 65 ล้านบาท ซึ่งหากบริษัทมีผลประกอบการที่ดีอาจทำให้เงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินลดลง
โดยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเห็นว่าการลงทุนเพิ่มเติมดังกล่าว เป็นรายการที่เหมาะสมและเป็นประโยชน์ต่อบริษัท เนื่องจากจะข่วยสร้างมูลค่าเพิ่มและผลตอบแทนที่ดีให้กับบริษัทและผู้ถือหุ้นระยะยาว