VTE เพิ่มวงเงิน B/E เป็น 5 พันลบ. เพิ่มความคล่องตัว,วางมัดจำ 206 ลบ.โครงการโซลาร์ฟาร์มในญี่ปุ่น

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday September 5, 2016 11:15 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายโสรัจ โรจนเบญจกุล ประธานกรรมการ บมจ.วินเทจ วิศวกรรม (VTE) แจ้งว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทอนุมัติการเพิ่มวงเงินการออกและเสนอขายตราสารหนี้ระยะสั้นในรูปตั๋วแลกเงิน (Bill of Exchange: B/E) ที่มีอายุไม่เกิน 270 วันนับแต่วันที่ออกตั๋ว ณ ขณะใดขณะหนึ่งจากจำนวนไม่เกิน 3,500 ล้านบาท เป็นจำนวนไม่เกิน 5,000 ล้านบาท เพื่อนำไปใช้เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการประกอบธุรกิจ โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

บริษัทฯ ได้ทำการเจรจากับทางสถาบันการเงินแล้วมีแนวโน้มว่าสถาบันการเงินจะขอหลักประกันการออก L/C เพิ่มเติมจากเดิมที่คาดว่าจะเป็นร้อยละ 40 เป็นร้อยละ 90 ถึง 100 สำหรับการวางหลักประกันในช่วงแรก ดังนั้น เพื่อความคล่องตัวในการดำเนินโครงการทั้ง มินบู และ บิลิรัน จึงอาจมีความจำเป็นที่จะต้องมีการออกตั๋วแลกเงินเพิ่มเติมมีผู้พัฒนาโครงการโรงไฟฟ้า เข้ามาติดต่อบริษัทฯเพื่อขอใช้บริการรับเหมาก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ที่มีการให้ระยะเวลาการชำระเงินแก่เจ้าของโครงการที่ยาวขึ้นเพื่อเอื้อประโยชน์ให้เจ้าของโครงการในการหาแหล่งเงินกู้ระยะยาว (Engineering Procurement and construction with Financing: EPC+F) อีกหลายราย จึงทำให้บริษัทฯมีความต้องการใช้เงินทุนหมุนเวียนเพิ่มขึ้น

ในการนี้ ให้คณะกรรมการบริหาร (Executive Committee) และ/หรือ ประธานกรรมการบริษัทฯมีอำนาจในการกำหนดรายละเอียดเกี่ยวกับตราสารหนี้ในรูปของตั๋วแลกเงิน (Bill of Exchange: B/E) ซึ่งรวมถึง ประเภท หลักประกัน สกุลเงิน อายุ มูลค่าที่ตราไว้ ราคาเสนอขาย อัตราดอกเบี้ย สิทธิในการไถ่ถอน วิธีการเสนอขาย ระยะเวลาการออกและเสนอขาย ตามที่สภาวการณ์จะเอื้ออำนวยและตามระยะเวลาที่เห็นสมควร รวมถึงให้อำนาจดำเนินการต่างๆ ที่จำเป็นและสมควร เพื่อการออกตราสารหนี้ในรูปตั๋วแลกเงินดังกล่าวสำเร็จลุล่วงไปได้

อนุมัติให้บริษัทฯ ทำการวางเงินมัดจำแบบเรียกคืนได้ จำนวนประมาณ 600 ล้านเยน หรือประมาณ 206 ล้านบาท (อ้างอิงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ 0.343 บาทต่อ 1 เยน) เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในเขตภูมิภาคโทโฮคุ (Tohoku) ประเทศญี่ปุ่น ขนาดกำลังการผลิตประมาณ 15 เมกะวัตต์

ทั้งนี้ บริษัทฯ จะดำเนินการวางเงินมัดจำดังกล่าวในช่วงเดือนกันยายน 2559 และคาดว่าผลการตรวจสอบสถานะดังกล่าวจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 2 ของปี 2560


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ