บมจ.เจ มาร์ท (JMART) เตรียมปรับโครงสร้างกิจการเป็นบริษัทโฮลดิ้ง ซึ่งดำเนินธุรกิจด้านการลงทุน โดยจะโอนกิจการบางส่วนของบริษัท (Partial Business Transfer :PBT) ทั้งธุรกิจจัดจำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง ให้กับบริษัท เจ มาร์ท โมบาย จำกัด (Jaymart Mobile) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่จัดตั้งขึ้นใหม่ ซึ่งคาดว่ามูลค่าทรัพย์สินสุทธิที่จะโอนมีประมาณ 363 ล้านบาท และคาดว่าจะเริ่มดำเนินการภายในเดือนม.ค.60 แล้วเสร็จภายในรอบระยะเวลาบัญชีปี 60 ขณะที่ JMART จะยังเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นต่อไป
JMART แจ้งว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวานนี้ อนุมัติการปรับโครงสร้างกิจการเพื่อให้บรรลุตามแผนกลยุทธ์ของบริษัท ในการสร้างธุรกิจที่ยั่งยืนและเติบโตอย่างต่อเนื่อง และเพิ่มความคล่องตัวในการขยายธุรกิจ โดยการโอนกิจการบางส่วนของบริษัท ได้แก่ ธุรกิจจัดจำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ อุปกรณ์เสริม และสินค้าเทคโนโลยี ทรัพย์สินและหนี้สินทั้งหมดที่เกี่ยวข้องและที่ใช้ในการประกอบธุรกิจดังกล่าว รวมถึงบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจดังกล่าวทั้งหมดให้แก่ Jaymart Mobile ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่จัดตั้งขึ้นใหม่โดยบริษัทจะถือหุ้น 99.99%
สำหรับมูลค่าการโอนกิจการดังกล่าวจะเท่ากับราคาตามมุลค่าบัญชี (Book Value) หรือราคาตามวิธีการปรับปรุงมูลค่าทางบัญชี หรือราคายุติธรรมของกิจการที่โอน แล้วแต่ประเภทของทรัพย์สินและหนี้สิน ของกิจการที่โอน ณ วันโอนกิจการ โดยคาดว่าจะมีมูลค่าประมาณ 363 ล้านบาท เทียบเคียงจากงบแสดงฐานะทางการเงินของบริษัท ณ วันที่ 30 มิ.ย.59 และเพื่อให้การโอนกิจการบางส่วนเป็นไปตามเงื่อนไข PBT Jaymart Mobile จะต้องมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิมากกว่าทรัพย์สินและหนี้สินที่จะรับโอนมาจากบริษัท ณ วันโอนกิจการ ดังนั้น Jaymart Mobile จะเพิ่มทุนจดทะเบียนเพื่อให้เป็นไปตามเงื่อนไข PBT โดยบริษัทจะจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนดังกล่าวทั้งจำนวน โดยการโอนกิจการบางส่วนคาดว่าจะเริ่มดำเนินการภายในเดือนม.ค.60 และเสร็จสิ้นภายในรอบระยะเวลาบัญชีปี 60
ภายหลังการโอนกิจการดังกล่าวบริษัทจะยังคงสถานะเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยเปลี่ยนลักษณะการประกอบธุรกิจไปเป็นบริษัทโฮลดิ้ง ซึ่งดำเนินธุรกิจด้านการลงทุนและการถือหุ้นบริษัทอื่น และจะเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น บมจ.เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้ง เพื่อให้สอดคล้องกับการประกอบธุรกิจของบริษัท
โดย Jaymart Mobile จะเป็นบริษัทแกนและบริษัทที่ประกอบธุรกิจหลัก ซึ่งได้รับโอนธุรกิจจัดจำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ อุปกรณ์เสริม และสินค้าเทคโนโลยี ทั้งค้าส่งและค้าปลีก สัญญา ทรัพย์สินและหนี้สินทั้งหมดที่เกี่ยวข้องและที่ใช้ในกาประกอบธุรกิจดังกล่าว ขณะที่ยังคงถือหุ้น 55.88% ในบมจ.เจเอ็มที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส (JMT) ซึ่งทำธุรกิจบริหารหนี้และให้บริการติดตามหนี้ และถือหุ้น 67.50% ในบมจ.เจเอเอส แอสเซ็ท (J) ซึ่งทำธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงถือหุ้น 24.99% ในบมจ.ซิงเกอร์ประเทศไทย (SINGER) ทำธุรกิจจำหน่ายและเช่าซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า ขณะที่ถือหุ้น 100% ในบริษัท เจมาร์ท โฮลดิ้ง จำกัด และบริษัท สมาร์ทไอเท็ม จำกัด ทำธุรกิจการลงทุนในต่างประเทศ และธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์