บมจ.แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป (LHBANK) แจงผลการดำเนินงานของบริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิไตรมาส 3/59 จำนวน 698.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 255.6 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 57.7% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/58 เป็นผลจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้น 4.2% ตามการขยายตัวของเงินให้สินเชื่อ และรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิเพิ่มขึ้น 40.6%
ผลการดำเนินงานของบริษัทและบริษัทย่อยงวด 9 เดือนของปี 59 มีกำไรสุทธิจานวน 2,072.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 880.9 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 74.0% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีจำนวน 1,191.2 ล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่เพิ่มขึ้น 13.6% ตามการขยายตัวของเงินให้สินเชื่อโดยเฉพาะสินเชื่อ Big Corporate และ Corporate ที่เพิ่มขึ้น 13.3% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิเพิ่มขึ้น 56.6%
กำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐาน สำหรับงวดไตรมาส 3 และงวด 9 เดือนของปี 59 เท่ากับ 0.0512 บาทต่อหุ้น และ 0.1519 บาทต่อหุ้น ตามลำดับ เทียบกับกำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐานในงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีจำนวน 0.0325 บาทต่อหุ้น และ 0.0873 บาทต่อหุ้น ตามลำดับ อัตราผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้นเฉลี่ยงวด 9 เดือนของปี 59 และงวด 9 เดือนของปี 58 อยู่ที่ 14.6% และ 9.4% ต่อปี ตามลำดับ
ไตรมาสที่ 3/59 รายได้ดอกเบี้ยสุทธิ มีจำนวน 1,188.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจานวน 47.7 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 4.2% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ตามการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของเงินให้สินเชื่อ และมีค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยจานวน 1,001.9 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน จำนวน 49.2 ล้านบาท หรือลดลง 4.7%
ภาพรวมเศรษฐกิจและภาวะการแข่งขันของธนาคารพาณิชย์ช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 59 คาดว่าเศรษฐกิจไทยยังคงชะลอตัว เนื่องจากแรงส่งของการใช้จ่ายภาคครัวเรือนมีสัญญาณแผ่วลง ภาคการท่องเที่ยวยังคงได้รับผลกระทบจากมาตรการปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญของภาครัฐ การใช้จ่ายภาครัฐคาดว่าจะขยายตัวทั้งการเบิกจ่าย รายจ่ายประจำและรายจ่ายลงทุน ในขณะที่ภาคการส่งออกคาดว่ายังเผชิญกับข้อจากัดและความเสี่ยงต่างๆ อาทิ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่ยังเปราะบาง การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการค้าโลก พัฒนาการทางการเมืองของประเทศต่างๆ เป็นต้น
อย่างไรก็ดี ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้ปรับประมาณการการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยปี 59 อยู่ที่ 3.2% (ณ ก.ย.59) เพิ่มขึ้นจากประมาณการครั้งก่อนที่คาดว่าจะขยายตัว 3.1%