บมจ.ไทยรุ่งยูเนี่ยนคาร์ (TRU) แจ้งว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทวานนี้ (31 ต.ค.) เห็นชอบให้นำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่ออนุมัติการแก้ไขเพิ่มเติมวัตถุประสงค์ และหนังสือบริคณห์สนธิ ข้อ 3 ของบริษัท โดยการเพิ่มวัตถุประสงค์ 7 ข้อ จากเดิม 35 ข้อเป็น 42 ข้อ เปิดทางลงทุนธุรกิจใหม่ในอนาคต รวมถึงธุรกิจผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้า ตลอดจนรับเหมาโครงการพลังงานทดแทน และอื่น ๆ
สำหรับวัตถุประสงค์ที่เพิ่มเติมทั้ง 7 ข้อ ได้แก่ ประกอบกิจการผลิต จำหน่ายกระแสไฟฟ้า เข้าร่วมลงทุนกับบริษัทอื่นที่ประกอบกิจการผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้า โรงไฟฟ้าทุกประเภท อาทิ โรงไฟฟ้าพลังความร้อน โรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม โรงไฟฟ้าพลังน้ำ โรงไฟฟ้าพลังลม โรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ โรงไฟฟ้าจากขยะ โรงไฟฟ้าจากชีวมวล โรงไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพ โรงไฟฟ้าพลังปรมาณู และโรงไฟฟ้าอื่น ๆ ทุกประเภท รวมถึงระบบผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า จ่ายไฟฟ้า เครื่องกำเนิดไฟฟ้า สายส่งไฟฟ้า และสิ่งอันเป็นวัสดุอุปกรณ์ของโรงไฟฟ้านั้น ๆ
ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับระบบไฟฟ้าพลังงานทุกประเภท ได้แก่ พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม พลังงานจากการเผาไหม้ วัสดุจากการเกษตร พลังงานขยะ พลังงานน้ำ พลังงานชีวภาพ พลังงานไอน้ำและประกอบธุรกิจ ก๊าซ น้ำมัน ถ่านหิน และเชื้อเพลิงอื่น ๆ เป็นต้น
ประกอบกิจการซื้อขาย ผลิต เชื้อเพลิง สำหรับการผลิตไฟฟ้า เช่น ถ่านหิน ก๊าซ น้ำมัน และเชื้อเพลิงอื่น ๆ ทุกประเภท ตลอดจนผลิตและจำหน่ายวัสดุที่ใช้ในการผลิตเซลล์แสงอาทิตย์ รวมถึงก้อนซิลิกอน แผ่นเวเฟอร์ แผ่นเซลล์แสงอาทิตย์ วัสดุกันความชื้น วัสดุปิดด้านหลังเซลล์แสงอาทิตย์ กรอบ และวัสดุทุกประเภท
ให้บริการรับจ้างเหมาออกแบบ ก่อสร้าง จำหน่าย ติดตั้ง ควบคุม ทดสอบระบบ ผลิตไฟฟ้าพลังงานทดแทนทุกประเภท โดยรวมถึงเครื่องจักร อุปกรณ์ทุกประเภทที่ใช้ในการผลิตระบบไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ น้ำ ไอน้ำ และลม แหล่งพลังงานอันได้มาจากธรรมชาติ หรือเชื้อเพลิงอื่น ๆ
ประกอบกิจการผลิต จำหน่าย ประกอบติดตั้ง ซ่อมแซม ให้บริการซ่อม บำรุงรักษา รวมทั้งส่งออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศ นำเข้ามาจำหน่ายภายในประเทศซึ่งอากาศยาน อุปกรณ์ หรือชิ้นส่วนอากาศยาน
รับจำนองทรัพย์สิน รับจำนำทรัพย์สิน รับซื้อฝากทรัพย์สิน โดยมิได้รับฝากหรือรับเงินจากประชาชน และใช้ประโยชน์จากเงินนั้น
ประกอบกิจการนิคม หรือเขตอุตสาหกรรม ผู้จัดตั้งเขตปลอดอากร เขตการค้าเสรี คลังสินค้า กิจการศูนย์บริการโลจิสติกส์ สถานีที่ตรวจปล่อย และบรรจุสินค้าเข้าตู้คอนเทนเนอร์ เพื่อการส่งออก หรือโรงพักสินค้าเพื่อตรวจปล่อยของขาเข้า และบรรจุของขาออก ที่ขนส่ง ตลอดจนให้บริการ ให้เช่า ซื้อ ขาย กิจการพัฒนาพื้นที่ดังกล่าว ทั้งนี้ กิจการคลังสินค้า จะประกอบกิจการได้ก็ต่อเมื่อได้รับอนุญาตจากกรมการค้าภายในแล้ว