STPI เผยบ.ย่อย.ใช้เงิน 840 ลบ.เข้าซื้อหุ้น 60%ในโรงไฟฟ้าขยะชุมชน จ.เพชรบุรี 7.9 MW

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday November 7, 2016 09:12 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.เอสทีพี แอนด์ ไอ (STPI) แจ้งว่าเมื่อวันที่ 5 พ.ย.ที่ผ่านมาบริษัท เอสทีพี แอนด์ ไอ เซอร์วิสเซส จำกัด (STPS) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยได้ลงนามสัญญาซื้อหุ้น 60% ในบริษัท ดับเบิลยู พีจีอี เพชรบุรี จำกัด (WPP) คิดเป็นมูลค่า 840 ล้านบาท โดยบริษัทดังกล่าวเป็นผู้ผลิตไฟฟ้าจากขยะชุมชน ในจ.เพชรบุรี ขนาด 7.9 เมกะวัตต์ โดยมีสัญญาขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) จำนวน 5.99 เมกะวัตต์ ซึ่งคาดว่าจะพร้อมผลิตไฟฟ้าภายในปลายปี 61

ทั้งนี้ การลงนามสัญญาซื้อหุ้นดังกล่าว เป็นไปตามมติที่ประชุมคณกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 9 ก.ย.ที่ผ่านมา ที่อนุมัติในหลักการให้บริษัทย่อยเข้าทำรายการเพื่อซื้อหุ้น WPP จำนวน 60% จากผู้ถือหุ้นเดิม ได้แก่ บริษัท ดับเบิลยูพี กรีนเอ็นเนอจี จำกัด (WPGE) และ WP CONSULTANT INTERNATIONAL CO., LTD.(WPCI) เพื่อดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากขยะชุมชน ซึ่งทางฝ่ายจัดการได้ดำเนินการศึกษาความเป็นไปได้และรายละเอียดโครงการจนเป็นที่พอใจแล้ว จึงตัดสินใจเข้าทำรายการดังกล่าว

สำหรับการผลิตไฟฟ้าจากขยะชุมชนดังกล่าวมีขนาดกำลังการผลิต 7.9 เมกะวัตต์ เป็นเวลา 5 ปีและต่ออายุอัตโนมัติทุก 5 ปี จนกว่าผู้ผลิตไฟฟ้าจะบอกยกเลิกสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับกฟภ. ซึ่งขณะนี้โครงการอยู่ระหว่างการเจรจาทำสัญญารับเหมาก่อสร้าง และติดตั้งเครื่องจักร โดยคาดว่าจะพร้อมผลิตไฟฟ้าได้ปลายปี 61

การลงทุนดังกล่าว เป็นการขยายธุรกิจไปยังธุรกิจพลังงานทดแทนที่มีการเติบโต อันเป็นไปตามแผนพัฒนาพลังงานทดแทน และพลังงานทางเลือก พ.ศ.2558 รวมถึงสามารถสร้างรายได้แบบต่อเนื่อง (Recurring Income) ให้กับกลุ่มบริษัทในระยะยาว สำหรับแหล่งเงินลงทุนที่ใช้จะมาจากเงินทุนหมุนเวียนจากการดำเนินงาน โดยงบการเงินรวม ณ วันที่ 30 มิ.ย.59 มีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดและเงินลงทุนชั่วคราว รวมจำนวน 6.39 พันล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ