นายธัชชัย ศุภผลศิริ เลขานุการบริษัท บมจ.น้ำตาลขอนแก่น (KSL) แจ้งผลคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดเกี่ยวกับบริษัท น้ำตาลท่ามะกา จำกัด ซึ่งเป็นบ.ย่อย ว่า วันที่ 23 ม.ค.49 บริษัทน้ำตาลท่ามะกา ได้ฟ้องคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย และกองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย ต่อศาลปกครองกลาง เพื่อขอคืนเงินกู้ที่ถูกเรียกเก็บเป็นเงินรักษาเสถียรภาพอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย ของฤดูกาลผลิตปี 2542-2543 ถึงปี 2545/2546 ที่คณะกรรการฯเรียกเก็บเงินจากบริษัทย่อยโดยการหักเงินร้อยละ 0.5 ของรายได้สุทธิของบริษัทย่อยในแต่ละฤดูกาลผลิต และนำส่งให้แก่กองทุนฯ รวมเป็นเงินจำนวน 28,834,640.39 บาท เนื่องจากการเรียกเก็บเงินดังกล่าวเป็นการเรียเก็บโดยมิชอบ ตามพ.ร.บ.อ้อยและน้ำตาลทราย ต่อมา 30 พ.ย.53 ศาลปกครองได้พิพากษายกฟ้องบริษัทย่อยจึงอุทธรณ์คำพิพากษาต่อศาลปกครองสูงสุดเมื่อ 27 ธ.ค.53
ศาลปกครองสูงสุดได้พิพากษากลับคำพิพากษาของศาลปกครองกลาง โดยพิพากษาว่า เงินที่คณะกรรมการฯเรียกเก็บในวิธีอัตราคงที่นั้น ไม่ใช่วิธีการเรียกเก็บเงินที่คณะกรรมการฯมีอำนาจเรียกเก็บและกองทุนฯไม่มีอำนาจรับไว้ได้ตามกฎหมาย การที่กองทุนฯไม่คืนเงินดังกล่าวจึงเป็นการกระทำละเมิดต่อบริษัทย่อยและเงินดังกล่าวไม่ถือว่าบริษัทย่อยสมัครใจยินยอมนำส่งให้กองทุนฯ
ดังนั้น คณะกรรมการฯ และกองทุนฯ จึงต้องคืนเงินให้แก่บริษัทย่อยรวมเป็นเงินจำนวน 28,834,640.39 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับตั้งแต่วันที่ฟ้องคดี (วันที่ 23 ม.ค.49) เป็นต้นไป จนกว่าจะชำระครบถ้วน โดยให้ดำเนินการคืนเงินให้แล้วเสร็จภายใน 90 วัน นับแต่วันที่คดีถึงที่สุด (17 พ.ย.59) และให้คืนค่าธรรมเนียมศาลชั้นต้นและชั้นอุทธรณ์ ให้แก่บริษัทย่อยด้วย