นายอัศวิน เตชะเจริญวิกุล กรรมการ บมจ.เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ (BJC) แจ้งว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ได้มีมติมีอนุมัติให้ BIGC เข้าลงทุนในธุรกิจบริการเกี่ยวเนื่องกับธุรกิจประกันวินาศภัยและประกันชีวิตโดยการร่วมทุนภายใต้สัญญาร่วมลงทุน (Joint Venture Agreement) กับ บริษัท นำทรัพย์พัฒนา 4 จากัด (นำทรัพย์ฯ) ในฐานะผู้ร่วมทุน ผ่านการถือหุ้นในบริษัทร่วมทุนซึ่งมีสถานะเป็นบริษัทย่อยของ BIGC ได้แก่ บริษัท บิ๊กซี เซอร์วิสเซส จากัด (บิ๊กซี เซอร์วิสเซส) โดยมีสาระสำคัญที่เกี่ยวข้องดังนี้
สัดส่วนการร่วมทุน ภายหลังการร่วมทุน BIGC และนำทรัพย์ฯ จะถือหุ้นใน บิ๊กซี เซอร์วิสเซส ในสัดส่วนร้อยละ 51 : 49 ตามลำดับ มูลค่าเงินลงทุนในธุรกิจไม่เกิน 100 ล้านบาท (คิดเป็นส่วนของ BIGC ไม่เกิน 51 ล้านบาท ตามสัดส่วนการถือหุ้น)
ขอบเขตการประกอบธุรกิจที่ร่วมทุน ธุรกิจบริการเกี่ยวเนื่องกับธุรกิจประกันวินาศภัยและประกันชีวิต ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการประกอบธุรกิจนายหน้านิติบุคคลประกันวินาศภัยและประกันชีวิตโดยการจัดตั้งสำนักงานสาขาซึ่งเป็นพื้นที่เช่าภายในห้างค้าปลีกของบิ๊กซีเพื่อดำเนินธุรกิจนาเสนอผลิตภัณฑ์ด้านการประกันภัยและประกันชีวิตให้แก่ลูกค้า
ทั้งนี้ การประกอบธุรกิจเป็นนายหน้านิติบุคคลประกันวินาศภัยและประกันชีวิตจะต้องได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ระยะเวลาเตรียมความพร้อมและเริ่มต้นให้บริการ คาดว่าจะเริ่มดำเนินธุรกิจภายในช่วงระหว่างไตรมาสที่ 2-3 ของปี 60
การให้ความสนับสนุนทางธุรกิจที่ร่วมทุนของคู่สัญญา BIGC จะให้การสนับสนุนทางธุรกิจแก่ บิ๊กซี เซอร์วิสเซส ในเรื่องของการให้เช่าพื้นที่ภายในห้างค้าปลีกของบิ๊กซี การให้ใช้แบรนด์บิ๊กซี และฐานข้อมูลต่างๆ ขณะที่นำทรัพย์ฯ จะจัดให้มีการให้การสนับสนุนด้านข้อมูลและ Know-How ด้านประกันภัยจากบริษัทประกันชีวิตและ/หรือประกันวินาศภัยชั้นนำ
BIGC จะได้รับประโยชน์ทางตรงจากค่าเช่าพื้นที่ ภายในห้างค้าปลีกของบิ๊กซีเพื่อจัดตั้งเป็นสำนักงานสาขา และค่าลิขสิทธิ์จากการใช้แบรนด์ ฯลฯ และ บิ๊กซี เซอร์วิสเซส จะได้รับประโยชน์เป็นค่าคอมมิชชั่นจากการให้บริการนายหน้าประกันภัย และค่าการตลาดอื่นๆ