บมจ.ศรีสวัสดิ์ พาวเวอร์ 1979 (SAWAD) แจ้งการทำคำเสนอซื้อหุ้นบริษัทเงินทุน กรุงเทพธนาทร (BFIT) หลังจากที่เข้าถือหุ้นในสัดส่วน 9.84% และได้รับอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ให้บริษัทสามารถเข้าถือหุ้นใน BFIT ได้ถึง 100%
การทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์
เรื่อง : การทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ ชื่อบริษัทจดทะเบียนที่ถูกทำคำเสนอซื้อ : บริษัทเงินทุน กรุงเทพธนาทร จำกัด (มหาชน) (BFIT) ผู้ทำคำเสนอซื้อ : บริษัท ศรีสวัสดิ์ พาวเวอร์ 1979 จำกัด (มหาชน) หมายเหตุ : ระยะเวลาการทำคำเสนอซื้อจะแจ้งให้ทราบภายหลังจากการประชุมผู้ถือหุ้น ราคาเสนอซื้อ หุ้นสามัญ (บาท/หุ้น) : 11.42
ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทอนุมัติทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ของ BFIT หากดำเนินการตามเงื่อนไขดังนี้ คือ บริษัทได้เข้าทำสัญญาจะซื้อจะขายหุ้นกับนางสาวนริศรา กิจพิพิธ ที่จะรวบรวมหุ้น BFUT ให้ได้เป็นจำนวนรวม 53,011,000 หุ้น คิดเป็น 26.51%ของหุ้นที่ชำระแล้วทั้งหมดของ BFIT ในราคาหุ้นละไม่เกิน 10.50 บาท รวมเป็นเงินจำนวนไม่เกิน 556.62 ล้านบาท เมื่อนับรวมกับจำนวนหุ้น BFIT ที่บริษัทถืออยู่ก่อนหน้าจะทำให้บริษัทถือหุ้นใน BFIT เพิ่มเป็น 36.35%
และที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทมีมติอนุมัติให้บริษัทเข้าซื้อหุ้น BFIT และทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดใน BFIT ด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสามในสี่ของผู้ถือหุ้นที่มาประชุมและมีสิทธิออกเสียง โดยมีจำนวนหุ้น 127,309,000 หุ้น คิดเป็น 63.65% คิดเป็นจำนวนเงินที่ใช้ในการทำคำเสนอซื้อไม่เกิน 1,453.87 ล้านบาท
พร้อมกันนั้น บริษัทจะปรับโครงสร้างกิจการตามแผนการจัดตั้งกลุ่มธุรกิจทางการเงินของบริษัทตามหลักเกณฑ์ตามรวมกลุ่ม (Consolidate Supervision) ประกอบด้วย การโอนธุรกิจบางส่วน ซึ่งได้แก่ ธูรกิจสินเชื่อแบบมีหลักประกันทุกชนิด รวมถึงการโอนสัญญาทรัพย์สินและหนี้สินทั้งหมดที่เกี่ยวข้องและที่ใช้ในการประกอบธุรกิจดังกล่าว รวมถึงสาขาทั้งหมดและบุคลากรที่จำเป็นในการดำเนินธุรกิจให้กับบริษัท ศรีสวัสดิ์ พาวเวอร์ 2014 จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ SAWAD ถือหุ้น 97% เพื่อเปลี่ยนลักษะการประกอบธุรกิจของบริษัทมาเป็นบริษัทโฮลดิ้ง โดยจะเริ่มดำเนินการภายหลังจากที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ให้ความเห็นชอบการจัดตั้งกลุ่มธุรกิจการเงิน และคาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ทันภายในรอบปีบัญชี 2560
ภายหลังจากการโอนกิจการบางส่วนแล้ว SAWAD จะยังคงสถานะเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ต่อไป ตามเกณฑ์ Holding โดยมีศรีสวัสดิ์ 2014 ซึ่งเป็นผู้รับโอนธุรกิจสินเชื่อมาดำเนินการแทนบริษัทในฐานะบริษัทแกน ทั้งนี้บริษัทจะดำรงสัดส่วนการถือหุ้นในศรีสวัสดิ์ 2014 มากกว่า 50% ของทุนจดทะเบียนทั้งหมด เพื่อให้ศรีสวัสดิ์ 2014 มีสถานะเป็นบริษัทแกนตามหลักเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)
การปรับโครงสร้างการประกอบธุรกิจภายในกลุ่มบริษัทหลังจากนั้น แผนการเบื้องต้น ศรีสวัสดิ์ 2014 จะบริหารพอร์ตสินเชื่อเดิมจนสิ้นสุดสัญญาและให้บริการสินเชื่อใหม่แบบมีหลักประกันบางประเภท นอกจากนั้นจะมุ่งเน้นการบริหารสาขาและให้บริการตัวแทนตัวแทนสินเชื่อ ขณะที่ BFIT จะขยายบริการสินเชื่อไปยังสินเชื่อแบบมีหลักประกันในประเภทที่ไม่ทับซ้อนกัน และสินเชื่อส่วนบุคคลแบบไม่มีหลักประกัน (Personal Loan) โดยใช้บริการตัวแทนสินเชื่อของศรีสวัสดิ์ 2014
นอกจากนี้ บริษัท เงินสดทันใจ จำกัด ซึ่งเดิมให้บริการสินเชื่อ Personal Loan และสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกำกับ (Nano Finance) ก็จะคงเหลือเพียงสินเชื่อ Nano Finance เพื่อไม่ให้การดำเนินธุรกิจทับซ้อนกันภายในกลุ่ม
อย่างไรก็ตาม การปรับโครงสร้างทางธุรกิจดังกล่าวจะไม่มีการโอนพอร์ตสินเชื่อระหว่างกัน แต่เป็นการปรับโครงสร้างเพื่อให้เกิดความชัดเจน ขจัดความขัดแย้งทางผลประโยชน์และสร้างโอกาสในการขยายธุรกิจสินเชื่อเพื่อการเติบโตาอย่างยั่งยืนของบริษัทในอนาคต ทั้งนี้หาก BFIT จะเริ่มดำเนินการขยายธุรกิจสินเชื่อประเภทอื่นเพิ่มเติมจากที่ให้บริการอยู่ในปัจจุบันจะต้องแจ้งให้ ธปท.ทราบล่วงหน้าเพื่อประเมินความพร้อมก่อน