บมจ.จี เจ สตีล (GJS) แจ้งว่าบริษัทจะเข้าทำสัญญาเงินกู้ระยะยาว วงเงินรวมไม่เกิน 111 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยมีหลักประกันเป็นการจดจำนองลำดับสองในที่ดิน อาคาร และเครื่องจักร ส่วนใหญ่ของบริษัท เพื่อนำเงินมาปรับโครงสร้างหนี้ที่ผิดนัดชำระของเจ้าหนี้การค้าต่างประเทศรายใหญ่ ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ผู้ค้าเศษเหล็กในต่างประเทศ จำนวน 4 ราย ที่มีมูลหนี้รวมดอกเบี้ยคงค้างราว 95.34 ล้านเหรียญสหรัฐ หวังจะช่วยให้งบการเงินของบริษัทแข็งแรงขึ้น
ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 6 ม.ค. อนุมัติให้บริษัทเข้าทำสัญญาเงินกู้ระยะยาวดังกล่าว ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการภายในไตรมาส 1/60 โดยเป็นกู้จาก Link Capital I (Mauritius) Limited แบ่งเป็น 2 วงเงิน ได้แก่ วงเงินกู้ระยะยาว 5 ปี (Senior Debt) ไม่เกิน 71 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยหลักประกันเป็นการจดจำนองลำดับสองในที่ดิน อาคาร และเครื่องจักร ส่วนใหญ่ของโรงงาน ,วงเงินกู้ด้อยสิทธิระยะยาว 7 ปี (Suboridnated Debt) จำนวนไม่เกิน 40 ล้านเหรียญสหรัฐ ไม่มีหลักประกัน
วัตถุประสงค์ในการกู้ เพื่อปรับโครงสร้างหนี้ที่ผิดนัดชำระของเจ้าหนี้การค้าต่างประเทศรายใหญ่ 4 ราย ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ผู้ค้าเศษเหล็กในต่างประเทศ และเพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานของบริษัท
บริษัทคาดว่าจะสามารถช่วยแก้ไขปัญหาหนี้สินของบริษัทที่ผิดนัดชำระมาเป็นเวลานานตั้งแต่ปี 55 โดยมูลหนี้ในส่วนของเจ้าหนี้การค้าต่างประเทศที่ผิดนัด และจะทำการปรับโครงสร้างหนี้นั้น คิดเป็น 58.5% ของหนี้สินรวมตามงบการเงินในไตรมาส 3/59 การแก้ไขหนี้ผิดนัดดังกล่าว จะช่วยให้งบการเงินของบริษัทแข็งแรงยิ่งขึ้น และเปลี่ยนหนี้ระยะสั้นที่ผิดนัด กลายเป็นหนี้ระยะยาว ตลอดจนช่วยเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินในด้านเงินทุนหมุนเวียน ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมั่นคงมากขึ้นในอนาคต