กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ เจซี (JCP) แจ้งว่าตามที่บริษัท เอไอเอ จำกัด ได้ทำสัญญาเช่าพื้นที่และสัญญาบริการ ชั้น B,M,10,12,13,14,15 จำนวนพื้นที่รวม 6,146.74 ตารางเมตร และบริษัท สเปเชียลตี้ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด ซึ่งปัจจุบันได้เปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท เอไอเอ ไวทัลลิตี้ (ประเทศไทย) จำกัด ได้ทำสัญญาเช่าพื้นที่และสัญญาบริการ ชั้น M จำนวนพื้นที่ 170.50 ตารางเมตร ของอาคารเจซี เควิน ทาวเวอร์ กับกองทุนฯ โดยสัญญาเช่าและบริการดังกล่าวจะสิ้นสุดในวันที่ 30 มิ.ย.60 นั้น
เมื่อเช้าวานนี้ (23 ม.ค.) กองทุนฯได้รับหนังสือจากบริษัท เอไอเอ จำกัด แจ้งว่าบริษัท เอไอเอ จำกัด และบริษัท เอไอเอ ไวทัลลิตี้ (ประเทศไทย) จำกัด ไม่ประสงค์จะต่ออายุสัญญาเช่าและบริการของพื้นที่เช่าดังกล่าว เนื่องจากมีนโยบายการปรับลดงบประมาณในการเช่าพื้นที่สำนักงาน
ขณะที่ทั้งสองบริษัท นับเป็นผู้เช่าพื้นที่และผู้รับบริการรายใหญ่ที่สุดของอาคาร เจซี เควิน ทาวเวอร์ โดยมีพื้นที่เช่ารวม 6,317.24 ตารางเมตร คิดเป็น 52.34% ของพื้นที่ให้เช่าทั้งหมด ซึ่งเช่ามาตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.45 จนถึงปัจจุบัน ดังนั้น การที่บริษัท เอไอเอ จำกัด และบริษัท เอไอเอ ไวทัลลิตี้ (ประเทศไทย) จำกัด ไม่ต่อสัญญาเช่าและบริการ จะส่งผลให้รายได้ที่กองทุนฯจะได้รับลดลง 35.50 ล้านบาท/ปี คิดเป็น 78% ของรายได้ค่าเช่าและค่าบริการของอาคารทั้งหมด ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อผู้ถือหน่วยลงทุนในด้านเงินปันผลที่ควรจะได้รับในงวดม.ค.-ธ.ค.60
อย่างไรก็ตามกองทุนฯได้มีแผนการแก้ไขโดยจะเร่งหาผู้เช่าพื้นที่รายใหม่เข้ามาทดแทน โดยใช้ช่องทางประชาสัมพันธ์ทุกช่องทาง เช่น ป้ายโฆษณาหน้าตึก ,ผ่านเอเยนต์ และเว็บไซต์ต่าง ๆ เพื่อที่จะให้กองทุนมีรายได้ทดแทนในส่วนที่ผู้เช่าพื้นที่รายใหญ่ไม่ต่อสัญญาเช่าและบริการในครั้งนี้