บมจ.คันทรี่ กรุ๊ป ดีเวลลอปเมนท์ (CGD) จะเพิ่มทุน 929.83 ล้านหุ้น เสนอขายบุคคลในวงจำกัด (PP) ในอัตราหุ้นละ 1.10 บาท เพื่อใช้เป็นส่วนหนึ่งในการเข้าซื้อและรับโอนกิจการของบริษัท โพรฟิท เวนเจอร์ส จำกัด (PVL) ซึ่งมีแผนจะพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบผสมผสาน (Mixed-use Development) ในจ.ฉะเชิงเทรา ภายใต้ชื่อ"โครงการฉะเชิงเทรา" ซึ่งบริษัทจะใช้งบลงทุนในการเข้าซื้อและรับโอนกิจการ ตลอดจนพัฒนาโครงการทั้งหมดในวงเงินรวม 1.95 พันล้านบาท
CGD แจ้งว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวานนี้ (7 ก.พ.) อนุมัติให้นำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้น เพื่อพิจารณาอนุมัติให้บริษัทเข้าทำรายการซื้อและรับโอนกิจการทั้งหมด ของ PVL โดยจะชำระค่าตอบแทนเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 1.07 พันล้านบาท แบ่งเป็น มูลค่าการรับโอนกิจการทั้งหมด 1.02 พันล้านบาท ซึ่งจะชำระด้วยหุ้นเพิ่มทุนของบริษัทจำนวน 929.83 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 1.10 บาท และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการโอนสินทรัพย์อีกประมาณ 46.74 ล้านบาท ที่จะชำระเป็นเงินสดของริษัท โดย PVL จะดำเนินการเลิกบริษัทภายหลังจากการโอนกิจการครั้งนี้
ขณะที่รายการดังกล่าวนับว่าเป็นรายการที่เกี่ยวโยง เนื่องจากนายสดาวุธ เตชะอุบล ,นายเบน เตชะอุบล และนายทอมมี่ เตชะอุบล ซึ่งรวมเรียกว่ากลุ่มเตชะอุบล เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของทั้ง CGD และ PVL
ทั้งนี้ จะเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้น เพื่อพิจารณาอนุมัติให้ลดทุนจดทะเบียน โดยการยกเลิกหุ้นที่ยังไม่ได้จำหน่ายออก หลังจากนั้นให้เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 8.27 พันล้านบาท จาก 7.34 พันล้านบาท โดยออกหุ้นใหม่ 929.83 ล้านหุ้น พาร์หุ้นละ 1 บาท เพื่อรองรับการจัดสรรให้กับ PP ในราคาหุ้นละ 1.10 บาท รวมมูลค่า 1.02 พันล้านบาท เพื่อเป็นการชำระค่าตอบแทนรับโอนกิจการ PVL โดยภายหลังการเพิ่มทุนครั้งนี้ PVL จะเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทในสัดส่วน 12.67%
ขณะที่หุ้นดังกล่าวจะถูกแจกจ่ายไปยังผู้ถือหุ้นของ PVL ซึ่งได้แก่ นายสดาวุธ เตชะอุบล นายทอมมี่ เตชะอุบล และนายเบน เตชะอุบล ซึ่งจะส่งผลให้กลุ่มเตชะอุบลถือหุ้นในบริษัทเพิ่มขึ้นเป็น 43.97% ขณะที่คาดว่าการรับโอนกิจการของ PVL จะดำเนินการแล้วเสร็จภายในเดือนพ.ค.60
ปัจจุบัน PVL เป็นบริษัทที่ไม่ได้ประกอบกิจการ แต่มีสินทรัพย์หลักคือการถือครองที่ดินเปล่าที่จ.ฉะเชิงเทรา เนื้อที่รวม 79-3-63 ไร่ โดยภายหลังการรับโอนกิจการทั้งหมดเสร็จสิ้น บริษัทมีแผนที่จะพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบผสมผสาน ต.บางพระ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ให้เป็นพื้นที่เช่า 41,110 ตารางเมตร ประกอบด้วย 1.สถานีบริการน้ำมัน 2.ศูนย์การค้าชุมชน (Community Mall) 3.พื้นที่ค้าปลีก 4.ตลาดชุมชน โดยรวมเรียกว่า "โครงการฉะเชิงเทรา" ซึ่งบริษัทตั้งงบประมาณลงทุนและพัฒนาโครงการราว 883.93 ล้านบาท ซึ่งเมื่อรวมมูลค่าการรับโอนกิจการทั้งหมดของ PVL ด้วยจะทำให้มีขนาดรายการรวม 1.95 พันล้านบาท
ตามแผนบริษัทจะดำเนินการในเฟสที่ 1 และเปิดให้บริการในต้นปี 61 ซึ่งจะมีโซนสถานีบริการน้ำมันขนาดใหญ่ รวมถึงร้านค้าปลีกภายในบริเวณสถานีบริการน้ำมัน ,โซน Community Mall และโซนตลาดสำหรับให้ผู้ประกอบการเช่าพื้นที่จัดบูธตามเทศกาล ใช้พื้นที่รวมกว่า 16,740 ตารางเมตร ขณะที่เฟสที่ 2 คาดว่าจะเปิดให้บริการภายในปี 62 ซึ่งเป็นส่วนขยายจากเฟสแรก โดยจะเป็นโซนตลาด outdoor รองรับผู้เช่าพื้นที่สำหรับจำหน่ายอาหารสด อาหารแห้ง และเครื่องดื่ม ภายใต้พื้นที่รวมกว่า 24,370 ตารางเมตร ซึ่งคาดว่าโครงการทั้งหมดจะช่วยเสริมรายได้ต่อเนื่องให้กับบริษัท (Recurring income) โดยประมาณอัตราผลตอบแทนภายในของโครงการ (Project IRR) ระดับประมาณ 24% มีระยะเวลาคืนทุนประมาณ 6 ปี หรือภายในปี 66