นางสาวกันยะรัตน์ กฤษณเทวินทร์ รองกรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่การเงิน บมจ.ดิ เอราวัณ กรุ๊ป (ERW) กล่าวว่า ปีนี้บริษัทประมาณการรายได้ธุรกิจโรงแรม ซึ่งเป็นรายได้หลักนั้น จะเติบโตในอัตรา 10% จากปี 59 โดยมีการเติบโตทั้งในส่วนของรายได้ส่วนห้องพัก และรายได้ค่าอาหารและเครื่องดื่ม รวมทั้งจำนวนห้องพักที่เพิ่มขึ้นจากโรงแรมที่เปิดให้บริการในปีนี้จำนวน 9 แห่ง 768 ห้อง
ทั้งนี้ ประมาณการรายได้เฉลี่ยต่อห้องพักของทั้งกลุ่มเพิ่มขึ้นราว 7% ซึ่งมีสาเหตุหลักจากการเพิ่มอัตราค่าห้องพัก และมีปัจจัยสนับสนุนจากการเติบโตที่ต่อเนื่องของภาคการท่องเที่ยวไทย ซึ่งยังคงมุ่งเน้นการเติบโตของกลุ่มนักท่องเที่ยวประเทศหลัก และการขยายฐานของกลุ่มนักท่องเที่ยวประเทศใหม่ ๆ มากขึ้น รวมถึงการท่องเที่ยวภายในประเทศที่ยังคงมีแนวโน้มที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวหลัก และเมืองรองที่เป็นจังหวัดเศรษฐกิจที่สำคัญของไทย
บริษัท ยังคงมุ่งขยายงานเพื่อคงความเป็นผู้นำในการเป็นผู้พัฒนาและผู้ลงทุนในกิจการโรงแรมของไทยและอาเซียน ภายใต้ยุทธศาตร์ระยะยาว 5 ปี (ปี 59-63) โดยมุ่งเน้นลงทุนและพัฒนาเครือข่ายโรงแรมที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง โดยมีเครือข่ายโรงแรมที่ให้บริการครบทุกระดับราคา ครอบคลุมทุกประเภทโรงแรมที่สำคัญตั้งแต่ระดับบนถึงระดับล่าง ในแหล่งท่องเที่ยวและแหล่งธุรกิจที่สำคัญทั่วประเทศไทย พร้อมตอบสนองลูกค้าทุกระดับ รวมถึงการดำเนินการพัฒนาโรงแรมในต่างประเทศ โดยเริ่มต้นการลงทุนที่ประเทศฟิลิปปินส์เป็นประเทศแรก ซึ่งเป็นประเทศที่มีศักยภาพในการเติบโตทางเศรษฐกิจ และภาคการท่องเที่ยวสูงที่สุดแห่งหนึ่งในอาเซียน
ปัจจุบัน มีโรงแรมที่อยู่ระหว่างการดำเนินการทั้งหมดในไทย 16 แห่ง แบ่งออกเป็น โรงแรมระดับกลาง (Midscale) 2 แห่ง โรงแรมชั้นประหยัด (Economy) 2 แห่ง และโรงแรมบัดเจ็ท (Budget) 12 แห่ง และประเทศฟิลิปปินส์ 6 แห่งภายใต้แบรนด์ "ฮ็อป อินน์" (HOP INN) และในปี 60 มีแผนจะเปิดดำเนินการโรงแรมภายใต้แบรนด์ฮ็อป อินน์ ในไทย 8 แห่ง และฟิลิปปินส์ 1 แห่ง ส่งผลให้สิ้นปี 60 บริษัทจะเป็นเจ้าของโรงแรมทั้งหมด 50 แห่ง และมีห้องพักทั้งหมด 7,153 ห้อง