บมจ.แม็คกรุ๊ป (MC) เปิดเผยถึงแผนการดำเนินงานในปีนี้ว่า บริษัทยังคงเน้นการเติบโตของรายได้จากการขายและผลกำไร โดยคาดว่ารายได้จากการขายจะเติบโตประมาณ 12-15% จากการเติบโตของยอดขายต่อร้านเดิม (Same- Store-Sales Growth) โดยสินค้าหลักยังคงเป็นเครื่องแต่งกายยีนส์ที่มีความเชี่ยวชาญ และเป็นผู้นำในตลาด ขณะเดียวกันก็จะพัฒนาสินค้าไลฟ์สไตล์กลุ่มใหม่ ๆ เพิ่มเติม โดยเน้นการจำหน่ายผ่านร้านค้าปลีกของตนเอง และขยายธุรกิจไปยังตลาดในภูมิภาคผ่านตัวแทนจำหน่าย ศึกษาตลาดใหม่เพิ่มเติม
ตลอดจนพัฒนาช่องทางการจัดจำหน่ายออนไลน์ ซึ่งเป็นช่องทางที่เพิ่มโอกาสและประสิทธิภาพในการขาย เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าตามเทรนด์การใช้ชีวิตของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป โดยบริษัทประมาณการอัตรากำไรขั้นต้นในปี 60 ที่ระดับใกล้เคียงกับปี 59
สำหรับงบลงทุน (CAPAX) นั้น คาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 70 ล้านบาทในปีนี้ สำหรับการขยายสาขาประมาณ 20-25 จุดขาย พัฒนาช่องทางออนไลน์ และระบบการบริหารลูกค้าสัมพันธ์ (Customer Relationship Management) ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าระยะเวลาการขายสินค้าสำเร็จรูปโดยรวม ณ สิ้นปี 60 จะลดลงมาอยู่ในระดับ 315 วัน
ส่วนธุรกิจนาฬิกา ซึ่งดำเนินการโดยบริษัท ไทม์ เดคโค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (TDC) ซึ่งถือหุ้นอยู่ 51% นั้น ได้มีการปรับโครงสร้างการบริหารจัดการ และปรับแผนธุรกิจใหม่ในไตรมาส 4/59 โดยเริ่มปรับสินค้าให้ตอบโจทย์ผู้บริโภคมากขึ้น มีรายการส่งเสริมการขายที่น่าสนใจและคุ้มค่ามากขึ้น ตลอดจนเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายเพื่อเข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่ เช่น การขายผ่านช่องทางออนไลน์ของบริษัท และการขายให้ลูกค้าองค์กร และการขายผ่าน TV Shopping เป็นต้น โดยมั่นใจว่าผลการดำเนินงานของธุรกิจนาฬิกาจะมีทิศทางที่ดีขึ้นในปี 60
บริษัทระบุอีกว่ามีวิสัยทัศน์ที่จะเป็นองค์กรธุรกิจชั้นนำของเอเชีย ในด้านเครื่องแต่งกายและสินค้าไลฟ์สไตล์ ด้วยการบริหารแบรนด์ที่หลากหลาย บริษัทได้จัดทำแผนกลยุทธ์ GREAT Strategy ที่มีเป้าหมายทางธุรกิจ การเงิน และการเติบโตของรายได้จากการขายที่อัตราเฉลี่ย 15% ต่อปี ตั้งแต่ปี 57-61
ตามแผน GR (Growth) สร้างการเติบโตของรายได้จากการขายจากสินค้าหลัก และพัฒนาสินค้าไลฟ์สไตล์ใหม่ ๆ ที่มีนวัตกรรมที่เป็นที่ยอมรับผ่านจุดขายทั้งประเภทออฟไลน์ และออนไลน์ , E (Efficiency) บริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานอย่างเหมาะสม บริหารต้นทุนการดำเนินงานและพื้นที่จุดขายให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น ขยายช่องทางการจัดจำหน่ายออนไลน์ ตลอดจนผสมผสานข้อมูลและการดำเนินงานของช่องทางต่าง ๆ เข้าด้วยกันทั้งหมดเพื่อก้าวเข้าสู่การเป็น Omni channel
A (Asia Brand) พัฒนาโปรแกรมสำหรับตัวแทนจำหน่ายในต่างประเทศ (Dealership program) ในกลุ่มประเทศเมียนมา กัมพูชา ลาว และเวียดนาม (CLMV) ให้แข็งแกร่งขึ้น และ T (Talented Team) มุ่งเน้นพัฒนาบุคลากรอย่างต่อเนื่อง ให้มีศักยภาพ มีความเข้าใจและสามารถตอบสนองการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ธุรกิจในแต่ละช่วงเวลาได้ อย่างรวดเร็ว เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจในระยะยาวอย่างยั่งยืน