นอกจากนี้ จะจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนไม่เกิน 1.38 พันล้านหุ้น รองรับการแปลงสภาพของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ (วอร์แรนต์) EFORL-W3 ที่จะออกไม่เกิน 1.38 พันล้านหน่วย อายุ 3 ปี จัดสรรให้ฟรีแก่ผู้ถือหุ้นเดิมอัตราส่วน 10 หุ้นเดิมต่อ 1 วอร์แรนต์ มีอัตราการใช้สิทธิ 1 วอร์แรนต์ ต่อ 1 หุ้นใหม่ ที่ราคาหุ้นละ 0.60 บาท
อีกทั้งจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนไม่เกิน 1.53 พันล้านหุ้น จะใช้รองรับการแปลงสภาพของ EFORL-W4 ที่จะออกไม่เกิน 1.53 พันล้านหน่วย อายุ 3 ปี จัดสรรให้ฟรีแก่ผู้ถือหุ้นเดิมที่จองซื้อหุ้นเพิ่มทุน ในอัตราส่วน 3 หุ้นใหม่ต่อ 1 วอร์แรนต์ มีอัตราการใช้สิทธิ 1 วอร์แรนต์ต่อ 1 หุ้นใหม่ ที่ราคาหุ้นละ 0.50 บาท
"การเพิ่มทุนในครั้งนี้ เรามีเป้าหมายที่จะทำให้บริษัทมีโอกาสกลับมาเติบโต ภายใต้สถานการณ์กำลังซื้อที่ชะลอ หลักๆ เงินที่ได้จะนำมาชำระคืนเงินกู้ยืมประมาณ 500 ล้านบาท ซึ่งทำให้สามารถลดต้นทุนทางการเงินที่สูง และเป็นเงินทุนหมุนเวียนเพื่อใช้ในการขยายธุรกิจในอนาคต เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีต่อผู้ถือหุ้น "นายธีรวุทธิ์ ปางวิรุฬห์รักข์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร EFORL กล่าว
นายธีรวุทธิ์ ยังเปิดเผยอีกว่า แผนการดำเนินงานในปี 60 บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้แตะที่ระดับ 4,000 ล้านบาท เติบโต 10% จากปีก่อนมีรายได้รวม 3,673 ล้านบาท โดยจะเน้นการเพิ่มยอดขายกลุ่มธุรกิจเครื่องมือแพทย์ และจาก"วุฒิศักดิ์ คอสเมติก"ซึ่งเป็นบริษัทลูกของบริษัท วุฒิศักดิ์ คลินิก อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด ที่มีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางประเภท Make Up หรือ color cosmetic ภายใต้แบรนด์ "วุฒิศักดิ์"รวมทั้งสุดยอดผลิตภัณฑ์บำรุงผิว SNAIL 8 นวัตกรรมสุดล้ำจากเมือกหอยทาก ที่ได้รับการตอบรับจากลูกค้าอย่างดี
นอกจากนี้ จะมีการเพิ่มฐานลูกค้าเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะการปรับกลยุทธคู่ค้าใหม่ในตลาด CLMV ให้เป็นตลาดเชิงรุกที่มีการขยายตัวสูงมีผู้ร่วมธุรกิจที่มีศักยภาพและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ขณะเดียวกันบริษัทฯกำลังอยู่ในระหว่างการขยายการลงทุนในรูปแบบใหม่ๆ
พร้อมกันนั้น บริษัทยังมีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างการบริหารการจัดการในคณะกรรมการของกลุ่มบริษัทวุฒิศักดิ์ทั้งหมด นำโดยนายสุรเกียรติ เสถียรไทย อดีตรองนายกรัฐมนตรี ทำหน้าที่เป็นแม่ทัพในฐานะประธานของกลุ่มวุฒิศักดิ์ทั้งหมด