บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) แจ้งว่าโครงการโรงผลิตไฟฟ้าพลังงานลม โครงการหาดกังหัน 1 ขนาดกำลังการผลิต 36 เมกะวัตต์ ที่จังหวัดสงขลา โครงการของบริษัท อีเอ วินด์ หาดกังหัน 3 จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ได้เริ่มจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (Commercial Operation Date : COD) ให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2560 เวลา 12.00 น.ซึ่งจะเริ่มรับรู้รายได้จากโครงการฯ ในวันเวลาดังกล่าวเช่นกัน
นายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร EA เปิดเผยว่า โครงการหาดกังหัน 1-3 ซึ่งเป็นโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมแห่งแรกของ EA และมีขนาดกำลังการผลิต 3 โครงการรวมกันเท่ากับ 126 เมกะวัตต์นั้น ได้ดำเนินการสร้างเสร็จตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมาและผ่านการทดสอบระบบเป็นที่เรียบร้อย โดยล่าสุด ได้เริ่มดำเนินการจำหน่ายไฟฟ้าในเชิงพาณิชย์ (COD) ให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) แล้ว เมื่อวันที่ 3 เดือนมีนาคม 2560 โดยเริ่มจากโครงการหาดกังหัน 1 ก่อน อันจะส่งผลให้ EA จะเริ่มมีรายได้จากโรงไฟฟ้าแห่งนี้ในไตรมาสที่ 1 นี้เป็นต้นไป
โครงการหาดกังหัน 1 นี้ ตั้งอยู่ที่อำเภอระโนด จ.สงขลา มีขนาดกำลังการผลิต 36 เมกะวัตต์ ประกอบด้วยกังหันลมผลิตไฟฟ้าขนาดกำลังการผลิตต้นละ 1.8 เมกะวัตต์ จำนวน 20 ต้น ซึ่งหากนับรวมทั้ง 3 โครงการ จะมีจำนวนกังหันรวมทั้งสิ้น 70 ต้น ตั้งเรียงรายเป็นแนวใกล้กับชายหาดระยะทางรวม 57 กิโลเมตร ซึ่งนอกจากจะช่วยเสริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงานไฟฟ้าให้กับพื้นที่ดังกล่าวด้วยการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดแล้ว EA ยังทำการพัฒนาถนนทำให้การเดินทางสะดวกขึ้น ส่งเสริมอาชีพและเพิ่มรายได้ของชุมชน ตลอดจนทำให้พื้นที่นี้มีศักยภาพสูงที่จะกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่แปลกตา สวยงาม และน่าเรียนรู้อีกด้วย
ส่วนโครงการหาดกังหัน 2 ขนาดกำลังการผลิต 45 เมกะวัตต์ และโครงการหาดกังหัน 3 ขนาดกำลังการผลิต 45 เมกะวัตต์ อยู่ระหว่างการเตรียมการเพื่อเริ่มขายไฟให้กับกฟผ. เช่นเดียวกัน คาดว่าจะสามารถ COD ได้ในเร็วๆนี้ ซึ่งจะส่งผลให้ในปีนี้ บริษัทฯ จะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าในมือเพิ่มเป็น 404 เมกะวัตต์ แบ่งเป็น โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์กำลังการผลิตรวม 278 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าพลังงานลมที่จังหวัดสงขลา และนครศรีธรรมราชกำลังการผลิต 126 เมกะวัตต์
“ปีนี้ถือเป็นปีแรกที่ EA เริ่มรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม ทำให้เราจะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าในมือเพิ่มขึ้นเป็น 404 เมกะวัตต์ ผลักดันให้ผลการดำเนินงานในปีนี้ เติบโตอย่างก้าวกระโดดและทำสถิติสูงสุดใหม่อีกครั้ง และพร้อมที่จะดำเนินโครงการใหม่ๆ ต่อเนื่องเพื่อสร้างผลตอบแทนที่มั่นคงให้กับผู้ถือหุ้นของบริษัทต่อไป" นายอมรกล่าวในที่สุด