GL แจงกรณีปล่อยกู้กลุ่มไซปรัส-สิงคโปร์ ยันเป็นไปตามธุรกิจปกติของบ.ย่อยที่มุ่งเน้น SME-หวังเป็นพันธมิตรธุรกิจ

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday March 14, 2017 09:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.กรุ๊ปลีส (GL) แจงข้อสังเกตของผู้สอบบัญชีกรณีเงินให้กู้ยืมและดอกเบี้ยค้างรับตามที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศ ไทย (ตลท.) สอบถาม โดยกรณี 1.รายละเอียดของผู้กู้กลุ่มไซปรัสและผู้กู้กลุ่มสิงคโปร์นั้น บริษัทขอชี้แจงว่าธุรกิจการให้กู้ยืมของ Group Lease Holdings Pte. Ltd. (GLH) เป็นไปตามธุรกิจปกติของ GLH ตามที่ปรากฎในหนังสือบริคณห์สนธิของ GLH และ กฎหมายในประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเป็นประเทศที่ GLH จดทะเบียนจัดตั้งขึ้นกำหนดให้ทำได้ ทั้งนี้ วัตถุประสงค์หลักทางธุรกิจของ GLH คือการถือหุ้นในบริษัทย่อยอื่น ๆ และการให้เงินกู้ยืม

ขณะที่ GLH เป็นบริษัทย่อยของบริษัท ซึ่งบริษัทถือหุ้นทั้งหมด โดย GLH จดทะเบียนจัดตั้งเป็นบริษัทจำกัดในวันที่ 10 ก. พ.57 โดยธุรกิจการให้เงินกู้ยืมของ GLH มุ่งเน้นการให้กู้ยืมเงินแก่ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) และพันธมิตรทางธุรกิจ หลัก โดยเริ่มดำเนินธุรกิจการให้เงินกู้ยืมในปี 56 และในช่วงแรก GLH ได้ให้เงินกู้ยืมแก่ผู้กู้ซึ่งเป็น SME จำนวน 3 ราย และได้รับ ชำระหนี้ครบถ้วน และตั้งแต่ปี 58 GLH ได้ดำเนินธุรกิจการให้เงินกู้ยืมมากขึ้น

ทั้งนี้ การให้เงินกู้ยืมแก่พันธมิตรทางธุรกิจ ผู้บริหารของ GLH จะพิจารณาถึงความน่าเชื่อถือของผู้กู้ (credit) ความ สัมพันธ์ทางธุรกิจที่มีอยู่ และที่จะพัฒนาต่อไปในอนาคต ลักษณะและจำนวนของหลักประกัน จำนวนเงินต้น และจำนวนดอกเบี้ย

สำหรับรายละเอียดของเงินให้กู้ยืมแก่ผู้กู้กลุ่มไซปรัส และผู้กู้กลุ่มสิงคโปร์ทั้ง 2 กลุ่มนั้น GLH มีหน้าที่ต่อผู้กู้ทั้ง 2 กลุ่มใน การรักษาความลับของข้อมูลที่เกี่ยวข้อง จึงไม่สามารถเปิดเผยชื่อของกลุ่มผู้กู้ทั้ง 2 กลุ่มต่อสาธารณชนได้

โดยผู้กู้กลุ่มสิงคโปร์ เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มธุรกิจระหว่างประเทศซึ่งก่อตั้งมาเป็นเวลานานแล้ว และถือหุ้นโดยครอบครัว นักธุรกิจชาวญี่ปุ่น โดยประกอบธุรกิจหลักผลิตวัสดุก่อสร้าง และธุรกิจจัดจำหน่ายในญี่ปุ่น รวมถึงทำธุรกิจเกี่ยวกับอุปกรณ์ในครัวเรือน และเครื่องใช้ไฟฟ้าในญี่ปุ่น กัมพูชา และสิงคโปร์ ธุรกิจให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ในญี่ปุ่น ธุรกิจไม้และไม้อัดในญี่ปุ่น บราซิล และกัมพูชา ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในญี่ปุ่น ธุรกิจเกี่ยวกับอุปกรณ์ประหยัดพลังงานในญี่ปุ่น กัมพูชา สิงคโปร์ และไทย ธุรกิจรับก่อสร้างในญี่ปุ่น ธุรกิจ เกี่ยวกับแผงโซลาร์ในญี่ปุ่น บราซิล และกัมพูชา ธุรกิจให้สินเชื่อสำหรับสินค้าคงคลังในญี่ปุ่น จีน ไทย บราซิล และกัมพูชา

ด้านความสัมพันธ์ทางธุรกิจและการถือหุ้นกับบริษัท หรือ GLH นั้น กลุ่มบริษัทของผู้กู้ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นตัวแทน จำหน่ายหลัก (dealer) ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดย GLH สำหรับอุปกรณ์ในครัวเรือน เครื่องใช้ไฟฟ้า และเครื่องจ่าย พลังงาน โดยผู้กู้กลุ่มสิงคโปร์ไม่ได้เป็นกรรมการ หรือผู้บริหารในบริษัทและบริษัทย่อย และผู้บริหารและกรรมการของบริษัทและบริษัท ย่อย ไม่ได้เป็นกรรมการหรือผู้บริหารของผู้กู้กลุ่มสิงคโปร์ดังกล่าว นอกจากนี้บริษัทและบริษัทย่อยไม่ได้ถือหุ้นของผู้กู้กลุ่มสิงคโปร์ อย่าง ไรก็ดี ผู้กู้กลุ่มสิงคโปร์ ถือหุ้นในบริษัทโดยผ่านบริษัทในเครือรวมจำนวนประมาณ 75 ล้านหุ้น คิดเป็นร้อยละประมาณ 4.96 ของหุ้นทั้ง หมดของบริษัท

ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2560 รายละเอียดของเงินให้กู้ยืมแก่ผู้กู้กลุ่มสิงคโปร์ มีดังต่อไปนี้

  ช่วงเวลาที่ให้         เงินต้น      ดอกเบี้ยเฉลี่ย     วันที่ชำระเงินต้น           ระยะเวลาชำระดอกเบี้ย
    เงินกู้ยืม       (ดอลลาร์สหรัฐ)
     Q2/58        15,000,000       25%      วันที่ครบกำหนดอายุเงินกู้  รายไตรมาสและเมื่อครบกำหนดอายุเงินกู้
 เพิ่มเติม Q3/58     26,394,750      19.3%     วันที่ครบกำหนดอายุเงินกู้  รายไตรมาสและเมื่อครบกำหนดอายุเงินกู้
 เพิ่มเติม Q4/58     14,876,950       18%      วันที่ครบกำหนดอายุเงินกู้  รายไตรมาสและเมื่อครบกำหนดอายุเงินกู้
รวม ณ 28 ก.พ.60   56,346,950      18.1%     วันที่ครบกำหนดอายุเงินกู้  รายไตรมาสและเมื่อครบกำหนดอายุเงินกู้
*ยอดเงินต้น ณ วันที3 28 กุมภาพันธ์ 2560 แตกต่างจากผลรวมของเงินกู้ยืมในตารางเป็นผลจากผลกระทบของอัตราแลกเปลี่ยน
เนื่องจากเงินกู้ยืมเดิมเป็นเงินบาทและต่อมาเปลี่ยนเป็นเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ
มูลค่าหลักประกันของเงินกู้ยืมข้างต้น ณ วันที3 28 กุมภาพันธ์ 2560 เท่ากับ 140,043,405 ดอลลาร์สหรัฐ ประกอบด้วย ที่ดินใน
ประเทศบราซิลซึ่งประเมินโดยผู้ประเมินราคาอิสระ จำนวนประมาณ 30.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และหุ้นสามัญของบริษัทมูลค่าประมาณ
109.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หากไม่รวมหุ้นสามัญของบริษัท มูลค่าหลักประกันจะมีจำนวนประมาณ 30,101,000 ดอลลาร์สหรัฐ ยอด
ดอกเบี้ยค้างรับ ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2560 มีจำนวน 4,832,930 ดอลลาร์สหรัฐ
          สำหรับผู้กู้กลุ่มไซปรัส เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มธุรกิจระหว่างประเทศ ซึ่งก่อตั้งมาเป็นเวลานานแล้ว และถือหุ้นโดยครอบ
ครัวนักธุรกิจชาวกัมพูชา โดยประกอบธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายสินค้ายี่ห้อชั้นนำของประเทศญี่ปุ่นในประเทศกัมพูชา
ประเทศลาว และเมียนมา ,ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ ในประเทศไทย ประเทศกัมพูชา ประเทศ
ออสเตรเลีย ประเทศลาวและประเทศไซปรัส ,ธุรกิจบริหารสินทรัพย์และธุรกิจทางการเงิน ,ธุรกิจให้สินเชื่อสำหรับสินค้าคงคลังใน
ประเทศกัมพูชา และธุรกิจร้านค้าปลีกในประเทศไซปรัส ประเทศกัมพูชา และประเทศออสเตรเลีย
          ด้านความสัมพันธ์ทางธุรกิจและการถือหุ้นกับบริษัท หรือ GLH นั้น กลุ่มบริษัทของผู้กู้ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นตัวแทน
จำหน่ายหลัก (dealer) ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดย GLH สำหรับสินค้ายี่ห้อชั้นนำของประเทศญี่ปุ่น โดยผู้กู้กลุ่มไซปรัส
ไม่ได้เป็นกรรมการ หรือผู้บริหารในบริษัทและบริษัทย่อย และผู้บริหารและกรรมการของบริษัทและบริษัทย่อย ไม่ได้เป็นกรรมการหรือผู้
บริหารของผู้กู้กลุ่มไซปรัสดังกล่าว นอกจากนี้บริษัทและบริษัทย่อยไม่ได้ถือหุ้นของผู้กู้กลุ่มไซปรัส อย่างไรก็ดี ผู้กู้กลุ่มไซปรัส ถือหุ้นใน
บริษัทโดยผ่านบริษัทในเครือรวมจำนวนประมาณ 11.5 ล้านหุ้น คิดเป็นร้อยละประมาณ 0.75 ของหุ้นทั้งหมดของบริษัท
          ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2560 รายละเอียดของเงินให้กู้ยืมแก่ผู้กู้กลุ่มไซปรัส มีดังต่อไปนี้
  ช่วงเวลาที่ให้         เงินต้น      ดอกเบี้ยเฉลี่ย     วันที่ชำระเงินต้น           ระยะเวลาชำระดอกเบี้ย
    เงินกู้ยืม       (ดอลลาร์สหรัฐ)
     Q3/58         9,899,000      14.5%     วันที่ครบกำหนดอายุเงินกู้  รายไตรมาสและเมื่อครบกำหนดอายุเงินกู้
 เพิ่มเติม Q4/58      6,673,127      14.7%     วันที่ครบกำหนดอายุเงินกู้  รายไตรมาสและเมื่อครบกำหนดอายุเงินกู้
 เพิ่มเติม Q1/59      3,201,020      15.1%     วันที่ครบกำหนดอายุเงินกู้  รายไตรมาสและเมื่อครบกำหนดอายุเงินกู้
 เพิ่มเติม Q2/59      5,000,000       15%      วันที่ครบกำหนดอายุเงินกู้  รายไตรมาสและเมื่อครบกำหนดอายุเงินกู้
 เพิ่มเติม Q3/59      3,000,000       15%      วันที่ครบกำหนดอายุเงินกู้  รายไตรมาสและเมื่อครบกำหนดอายุเงินกู้
 เพิ่มเติม Q4/59     11,745,290       15%      วันที่ครบกำหนดอายุเงินกู้  รายไตรมาสและเมื่อครบกำหนดอายุเงินกู้
 เพิ่มเติม Q1/60      2,260,634       15%      วันที่ครบกำหนดอายุเงินกู้  รายไตรมาสและเมื่อครบกำหนดอายุเงินกู้
รวม ณ 28 ก.พ.60   41,779,071       15%     วันที่ครบกำหนดอายุเงินกู้  รายไตรมาสและเมื่อครบกำหนดอายุเงินกู้
          ทั้งนี้ มูลค่าหลักประกันของเงินกู้ยืมข้างต้น  ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2560 เท่ากับ 43,149,551  ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่ง
ประกอบด้วยอสังหาริมทรัพย์ (บ้านและอพาร์ทเมนท์) พันธบัตรรัฐบาลระยะกลางของประเทศไซปรัส หุ้นบริษัทจำกัด และหุ้นสามัญของ
บริษัท (จำนวน 11,500,000 หุ้น) หลักประกันดังกล่าวได้รับการประเมินโดยผู้ประเมินราคาอิสระเนื่องจากยังไม่มีราคาตลาด หาก
ไม่รวมหุ้นสามัญของบริษัท มูลค่าหลักประกันจะมีจำนวนประมาณ 23,698,202 ดอลลาร์สหรัฐ ยอดดอกเบี่ยค้างรับ ณ วันที่ 28
กุมภาพันธ์ 2560 มีจำนวน 2,201,134 ดอลลาร์สหรัฐ
          สำหรับเงินกู้ยืมทั้งหมดที่ให้แก่ลูกค้าของ GLH รวมถึงเงินให้กู้ยืมแก่ผู้กู้ทั้ง 2 กลุ่มดังกล่าว เป็นไปตามเงื่อนไขการค้าทั่ว
ไปตามนโยบายและแนวทางปฏิบัติของ GLH ซึ่งพิจารณาแล้วเห็นว่าผู้กู้ทั้ง 2 กลุ่มดังกล่าวเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่สำคัญของบริษัท ซึ่ง
จะช่วยส่งเสริมและเกื้อหนุนธุรกิจการให้สินเชื่อให้แก่ผู้บริโภคของบริษัทเป็นอย่างยิ่ง อย่างไรก็ตามการให้เงินกู้ยืมของบริษัทย่อยไม่
เข้าข่ายเป็นรายการที่เกี่ยวโยงกันเนื่องจากผู้กู้ทั้ง 2 กลุ่มไม่ถือว่าเป็นบุคคลที่เกี่ยวกันของบริษัท โดยไม่ได้เป็นกรรมการหรือผู้บริ
หารในบริษั ทและบริษัทย่อย และผู้บริหารและกรรมการของบริษัทและบริษัทย่อยไม่ได้เป็นกรรมการหรือผู้บริหารของผู้กู้ดังกล่าว นอก
จากนี้บริษัทและบริษัทย่อยไม่ได้ถือหุ้นของผู้กู้ และผู้กู้ทั้ง 2 กลุ่มข้างต้นถือหุ้นน้อยกว่าร้อยละ 10 ของหุ้นทั้งหมดของบริษัท
          2.ระบุแหล่งเงินทุนที่ GL ใช้ในการให้กู้ยืมแก่บริษัทย่อย และแหล่งเงินดังกล่าวมีภาระผูกพันหรือไม่ อย่างไร สำหรับ
แหล่งเงินที่บริษัทนำมาใช้ในการให้กู้ยืมแก่ GLH มาจากกระแสเงินสดของบริษัท ซึ่งเกิดจากการดำเนินงานและการหาแหล่งเงินทุน
เพิ่มเติมของบริษัท อันรวมถึงเงินที่ได้รับจากการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นของบริษัท และเงินจากการออกและเสนอขาย
หุ้นกู้แปลงสภาพ
          3.อธิบายการขยายระยะเวลาชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยค้างรับแก่ผู้กู้ข้างต้นแยกเป็นรายกลุ่ม

                            จำนวนเงินที่ได้รับการขยายเวลาชำระหนี้      จำนวนเงินที่ได้รับการขยายเวลาชำระหนี้
                                  (ดอลลาร์สหรัฐ)                          (ดอลลาร์สหรัฐ)
                                    ผู้กู้กลุ่มสิงคโปร์                          ผู้กู้กลุ่มไซปรัส

ไตรมาสที3 4/58                       10,011,750                              9,899,000
ไตรมาสที3 1/59                       25,011,750                             26,998,000
ไตรมาสที3 2/59                       10,011,750                              9,899,000
ไตรมาสที3 3/59                       15,075,000                             17,099,000
ไตรมาสที3 4/59                            -                                      -
28 กุมภาพันธ์ 2560                    15,000,000                                  -
          สำหรับผู้กู้กลุ่มสิงคโปร์ ซึ่งมียอดเงินต้นรวม 56,346,950 ดอลลาร์สหรัฐ เงินต้นจำนวน 16,775,000 ดอลลาร์
สหรัฐจะครบกำหนดในปี 2560 และเงินต้นส่วนที่เหลือจำนวน 39,571,950 ดอลลาร์สหรัฐจะครบกำหนดในปี 2561
          สำหรับผู้กู้กลุ่มไซปรัสซึ่งมียอดเงินต้นรวม 41,779,071 ดอลลาร์สหรัฐ เงินต้นจำนวน 16,572,127 ดอลลาร์สหรัฐ
จะครบกำหนดในปี 2561 จำนวน 22,946,310 ดอลลาร์สหรัฐจะครบกำหนดในปี 2562 และเงินต้นส่วนที่เหลือจำนวน
2,260,634 ดอลลาร์สหรัฐจะครบกำหนดในปี 2563
          ทั้งนี้การขยายระยะเวลาชำระเงินให้กู้ยืมให้แก่ผู้กู้ทั้ง 2 กลุ่มข้างต้นไม่ได้เกิดจากการที่ผู้กู้ดังกล่าวผิดนัดชำระหนี้ แต่
เป็นนโยบายในการให้กู้ยืมแก่ลูกค้ารายใหม่ ๆ โดยการให้เป็นเงินกู้ยืมระยะสั้นในช่วงระยะเวลาเริ่มต้น เพื่อให้สามารถดูแลและ
ตรวจสอบสถานะ รวมถึงความสัมพันธ์กับผู้กู้รายดังกล่าวก่อน หาก GLH เห็นว่าสามารถดำเนินกลยุทธ์ทางธุรกิจร่วมกับผู้กู้รายนั้นได้ ก็
จะขยายระยะเวลาสำหรบเงินให้กู้ยืมดังกล่าวให้เป็นเงินกู้ยืมระยะยาว สำหรับผู้กู้ทั้ง 2 กลุ่ม เดิมผู้กู้ขอสินเชื่อเป็นเงินให้กู้ยืมระยะ
ยาวที่มีกำหนดชำระคืนหนี้เมื่อครบ 3 ปี แต่เพื่อปฏิบัติตามนโยบายในการให้กู้ยืมของ GLH จึงกำหนดให้เป็นเงินกู้ระยะสั้น โดยกำหนด
คืนภายใน 3 เดือน และในเวลาต่อมาได้ขยายระยะเวลาชำระเงินกู้ยืมคืนเป็น 1 ปีและ 3 ปีตามลำดับ
          ในการนี้ GLH จะเรียกเก็บดอกเบี้ยที่ครบกำหนดชำระตามสัญญาเงินกู้ที่เกี่ยวข้องเป็นรายไตรมาส โดยปกติ GLH จะ
ออกใบแจ้งหนี้สำหรับดอกเบี้ยดังกล่าวภายใน 5-6 อาทิตย์ หลังจากสิ้นไตรมาส เมื่อมีการออกใบแจ้งหนี้แล้ว ผู้กู้จะชำระเงินตามจำ
นวนได้รับแจ้งภายใน 1-3 อาทิตย์ ทั้งนี้ในปี 2558 และ 2559 ไม่มีดอกเบี้ยค้างชำระ และ GLH ได้รับชำระดอกเบี้ยครบถ้วน
จากผู้กู้ทั้ง 2 กลุ่มดังกล่าวมาโดยตลอด (ดอกเบี้ยรับจำนวน 485 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละประมาณ 16 ของรายได้รวมของบริษัทใน
ปี 2559) ผู้บริหารจึงมีความเห็นว่าไม่ต้องตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญสำหรับผู้กู้ทั้ง 2 กลุ่มข้างต้น และผู้สอบบัญชี ได้พิจารณาว่าเงินกู้
ยืมดังกล่าวเป็นลูกหนี้ปกติเช่นกันและไม่ได้ตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญสำหรับเงินกู้ยืมดังกล่าว
          GLH มุ่งเน้นการให้กู้ยืมเงินแก่ SME และพันธมิตรทางธุรกิจเป็นหลัก และ GLH  ได้ใช้ความระมัดระวังในการให้กู้ยื
มแก่กลุ่มผู้กู้ต่างๆ ซึ่งต้องมีโอกาสทางธุรกิจที่สอดคล้องกับธุรกิจของบริษัท และ GLH ในปัจจุบัน GLH จึงยังไม่มีการกำหนดนโยบาย
การตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญและมาตรการดำเนินการในกรณีดังกล่าว สำหรับเงินที่ GLH ให้กู้ยืม แต่จากนี้ต่อไป GLH  จะดูแลและ
ตรวจสอบเงินกู้ยืมแต่ละรายอย่างใกล้ชิด และจะร่วมทำงานกับผู้สอบบัญชี เพื่อพิจารณาว่ามีความจำเป็นในการกำหนดการตั้งค่าเผื่อหนี้
สงสัยจะสูญหรือไม่และจะกำหนดการตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญที่เหมาะสมสำหรับเงินกู้ยืมที่เกี่ยวข้องต่อไป
          ทั้งนี้ คณะกรรมการของบริษัทได้อนุมัติเงินให้กู้ยืมแก่ GLH เพื่อให้ GLH นำไปใช้ในการดำเนินธุรกิจปกติ ของ GLH ซึ่ง
รวมถึงการให้กู้ยืมแก่ลูกค้าตามนโยบายและทางปฏิบัติทั่วไปของ GLH ในการให้กู้ยืม ทั้งนี้ผู้บริหารของ GLH จะพิจารณาอนุมัติการให้
กู้ยืมแก่ผู้กู้ แต่ละรายและรายงานให้คณะกรรมการบริษัททราบต่อไปเป็นคราวๆ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ