บมจ.ปตท. (PTT) แจ้งว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันศุกร์ (17 มี.ค.) อนุมัติการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2560 ในวันที่ 28 เม.ย. พร้อมกำหนดระเบียบวาระการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น โดยหนึ่งในวาระจะเสนอให้พิจารณาอนุมัติการปรับโครงสร้างปตท. และการเสนอขายหุ้นสามัญของ บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (PTTOR) ต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) และการนำ PTTOR เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)
ทั้งนี้ ก่อนการนำเข้า PTTOR เข้าตลาดหุ้น ปตท.จะโอนกิจการของหน่วยธุรกิจน้ำมัน รวมถึงสินทรัพย์และหนี้สินของหน่วยธุรกิจดังกล่าว ตลอดจนหุ้นของบริษัทที่เกี่ยวข้องให้แก่ PTTOR โดยมีมูลค่าการโอนกิจการรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1.22 แสนล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการภายในปี 60 ขณะที่การขายหุ้น PTTOR เข้าตลาดหุ้นจะให้สิทธิจองซื้อแก่ผู้ถือหุ้นเดิมของปตท.ด้วย
คณะกรรมการของ ปตท.เห็นว่าการปรับโครงสร้างครั้งนี้เป็นการเพิ่มความชัดเจนในการดำเนินธุรกิจของปตท.ให้สอดคล้องกับบทบัญญัติแห่งร่างรัฐธรรมนูญใหม่ปี 2559 ที่รัฐจะไม่ประกอบกิจการแข่งขันกับเอกชน รวมทั้งเป็นการสร้างความโปร่งใสชัดเจนในการดำเนินธุรกิจของปตท.ต่อสาธารณชน และเพิ่มศักยภาพและความคล่องตัวในการแข่งขันประกอบธุรกิจเพื่อให้สอดคล้องกับแนวนโยบายของรัฐบาลในการเปิดเสรีธุรกิจน้ำมัน และเป็นการสนับสนุนให้ธุรกิจเอสเอ็มอีเติบโต สร้างงานสร้างอาชีพให้กับคนไทยได้มากขึ้น สร้างความเข้มแข็งให้แก่แบรนด์ไทย รวมทั้งนำพาผู้ประกอบการไทยสู่ตลาดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) และตลาดสากล อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมและกระตุ้นตลาดทุนไทย และเป็นการเพิ่มโอกาสในการแสวงหาพันธมิตรทางธุรกิจที่มีประสบการณ์สูง โดยเฉพาะในธุรกิจค้าปลีก เพื่อเสริมสร้างศักยภาพของธุรกิจของ PTTOR อย่างเต็มที่
ทั้งนี้ การปรับโครงสร้างปตท.ในครั้งนี้ จะทำให้ PTTOR เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และเป็นบริษัทแกน (Flagship Company) ในการดำเนินธุรกิจน้ำมันและค้าปลีกของปตท. ทั้งภายในและภายนอกสถานีบริการน้ำมันและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องของกลุ่มปตท. ซึ่ง PTTOR สามารถระดมทุนเพื่อรองรับการขยายธุรกิจได้ด้วยตนเอง และลดภาระพึ่งพิงแหล่งเงินทุนจากปตท.ได้
ที่ประชุมคณะกรรมการ ปตท.เมื่อวันศกร์ เห็นชอบการปรับโครงสร้าง ปตท. โดยจะโอนกิจการของหน่วยธุรกิจน้ำมัน รวมถึงสินทรัพย์และหนี้สินของหน่วยธุรกิจดังกล่าว ตลอดจนหุ้นของบริษัทที่เกี่ยวข้องให้แก่ PTTOR ซึ่ง ณ ปัจจุบันปตท.ถือหุ้นใน PTTOR จำนวน 100% โดยมีมูลค่าการโอนกิจการรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1.22 แสนล้านบาท ซึ่งคาดว่าการโอนกิจการจะเกิดขึ้นภายในปี 60 และการชำระราคาซื้อขายจะเป็นการชำระด้วยเงินสด
สำหรับการนำหุ้น PTTOR เข้าตลาดหุ้นนั้น จะเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไป ,ผู้บริหารและพนักงานของ PTTOR และผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัท ที่มีสิทธิได้รับการจัดสรรหุ้น แต่จะไม่เสนอขายให้ผู้ถือหุ้นที่ทำให้ PTTOR มีหน้าที่ตามกฎหมายต่างประเทศ (Preferential Share Offering) โดยปตท.และหน่วยงานของรัฐจะถือหุ้นใน PTTOR ต่ำกว่า 50% ภายหลังการเสนอขายหุ้น IPO ของ PTTOR รวมทั้งปตท.มีนโยบายจะคงสัดส่วนการถือหุ้นใน PTTOR อย่างน้อย 45%
ปตท.และ PTTOR จะวางแผนและกำหนดหลักเกณฑ์การกระจายหุ้น เพื่อให้มั่นใจว่าหุ้นของ PTTOR ในการทำ IPO จะสามารถกระจายไปสู่ประชาชนอย่างทั่วถึง นอกจากนี้ เพื่อรักษาสิทธิผู้ถือหุ้นของปตท. จึงพิจารณาเห็นชอบให้มีการเสนอขายหุ้น IPO ของ PTTOR ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของปตท.ที่มีสิทธิได้รับการจัดสรรด้วย ในสัดส่วนไม่เกิน 5% ของหุ้นที่จะเสนอขาย IPO ทั้งหมด
แผนการใช้เงินจากการทำ IPO ของ PTTOR จะใช้ในการขยายธุรกิจของปตท.ในอนาคต และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของปตท.
สำหรับความเห็นของบริษัท ที่ปรึกษา เอเซีย พลัส จำกัด ซึ่งเป็นที่ปรึกษาทางการเงินอิสระต่อการปรับโครงสร้างปตท. เห็นว่า มูลค่ากิจการที่เหมาะสมของการโอนกิจการ อยู่ระหว่าง 1.1-1.47 แสนล้านบาท ดังนั้น การโอนกิจการในช่วงราคาดังกล่าวจึงมีความสมเหตุสมผล