บมจ.ยูบิส (เอเชีย) (UBIS) แจ้งว่าบริษัทจะยกเลิกการลงทุนทั้งหมด 40% ในบริษัท แฟมิลี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (แฟมิลี่) หลังจากได้เข้าซื้อมาเมื่อปี 58 หลังตรวจพบว่าแฟมิลี่ผิดเงื่อนไขการจัดทำงบการเงินที่ถูกต้อง ส่งผลกระทบต่อการจัดทำงบการเงินประจำปี 2559 ของบริษัทด้วย โดยจะจำหน่ายเงินลงทุนจากการลงทุนทั้งหมดในแฟมิลี่ คิดเป็นมูลค่ารวม 320 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยชำระรวม 12 งวดตั้งแต่เดือนมิ.ย.60 จนถึงพ.ค.61
UBIS ระบุว่าตามที่บริษัทได้เข้าทำสัญญาซื้อขายหุ้นกับบริษัท อาร์เอฟวิชั่น จำกัด เมื่อวันที่ 5 มิ.ย.58 เพื่อเข้าซื้อหุ้นสามัญของแฟมิลี่ จำนวน 4 แสนหุ้น คิดเป็น 40% รวมเป็นเงิน 280 ล้านบาท และต่อมาได้เข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนของแฟมิลี่ตามสัดส่วนการถือหุ้นอีกเป็นมูลค่า 40 ล้านบาท ส่งผลให้มีจำนวนหุ้นถือครอง 8 แสนหุ้น คิดเป็น 40% ในมูลค่ารวม 320 ล้านบาท
ทั้งนี้ ตามข้อกำหนดของสัญญาซื้อขายหุ้น ได้กำหนดให้แฟมิลี่จะต้องจัดทำงบการเงินของบริษัทตามหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไปในประเทศไทยอย่างสม่ำเสมอและเป็นไปตามกฎหมายที่ใช้บังคับ ซึ่งงบการเงินของแฟมิลี่ได้จัดทำอย่างถูกต้องและครบถ้วนในสาระสำคัญ แต่ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นและปรากฎแก่บริษัทภายหลังการเข้าลงทุนในแฟมิลี่แล้ว พบว่าในการขายอุปกรณ์รับสัญญาณโทรทัศน์ในระบบดิจิตอล (Set Top Box) ในช่วงปี 58 ต่อเนื่องจนถึงปี 59 นั้น แฟมิลี่ทำการขายอุปกรณ์ดังกล่าวในลักษณะของการฝากขายมิใช่การขายขาด โดยปราศจากเงื่อนไขการรับคืน เมื่อการขายอุปกรณ์เป็นลักษณะของการฝากขาย และแฟมิลี่ต้องรับคืนหากผู้แทนจำหน่ายไม่สามารถขายได้ ตามมาตรฐานบัญชี แฟมิลี่จะต้องตั้งสำรองเผื่อสำหรับการรับคืนอุปกรณ์ด้วย ไม่สามารถบันทึกการรับรู้รายได้ทั้งหมดที่นำอุปกรณ์ออกขายได้
แต่จากงบการเงินที่ผ่านการตรวจสอบของผู้สอบบัญชี พบว่าแฟมิลี่ไม่ได้ตั้งสำรองเผื่อสำหรับกรณีการรับคืนอุปกรณ์แต่อย่างใด แต่กลับบันทึกรายได้จากการขายฝากขายอุปกรณ์ทั้งหมด ซึ่งถือว่าแฟมิลี่ไม่ได้จัดทำงบการเงินตามหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไปในประเทศไทยอย่างสม่ำเสมอและเป็นไปตามกฎหมายที่ใช้บังคับ ซึ่งเหตุดังกล่าวจะตรวจพบได้ก็ต่อเมื่อแฟมิลี่ได้จัดทำงบการเงินประจำปีแล้วเท่านั้น
จากกรณีดังกล่าว ส่งผลให้แฟมิลี่จะต้องปรับปรุงงบการเงินและจัดทำงบการเงินของบริษัทตามหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไป ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อมูลค่าการลงทุนในแฟมิลี่ โดยบริษัทพิจารณาแล้วเห็นว่าหากแฟมิลี่จัดทำงบการเงินถูกต้อง บริษัทอาจจะไม่ต้องลงทุนในแฟมิลี่ด้วยมูลค่าการลงทุนดังกล่าว ซึ่งบริษัทถือว่าได้เข้าลงทุนโดยสำคัญผิดในสิ่งที่เป็นสาระสำคัญของการลงทุน เมื่อพิจารณาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์แล้ว ถือว่าการเข้าลงทุนในแฟมิลี่เป็นโมฆะ
ดังนั้น ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 15 มี.ค. มอบอำนาจให้คณะกรรมการบริหารเป็นผู้ดำเนินการในการเจรจาข้อตกลงเงื่อนไขต่าง ๆ กับบริษัท อาร์เอฟวิชั่น จำกัด จึงมีมติที่ประชุมคณะกรรมการบริหาร เมื่อวัที่ 17 มี.ค. ให้ดำเนินการ โดยยกเลิกการจำหน่ายเงินลงทุนในหุ้นแฟมิลี่ ให้แก่นายสมชาย เปรื่องวิริยะ จำนวน 4.4 แสนหุ้น หรือคิดเป็น 22% และยกเลิกการเข้าลงทุน และจำหน่ายเงินลงทุนในแฟมิลี่ ให้แก่บริษัท อาร์เอฟวิชั่น จำนวน 8 แสนหุ้น คิดเป็น 40% ในมูลค่า 320 ล้านบาท โดยมีเงื่อนไขการชำระเงินจากการจำหน่ายหุ้นคืนทั้งหมด 12 งวด เริ่มตั้งแต่งวดแรก ภายในสิ้นเดือนมิ.ย.60 จนถึงงวดที่ 12 ภายในสิ้นเดือนพ.ค.61 รวม 320 ล้านบาท
ทั้งนี้ เพื่อให้บริษัทสามารถทำการปิดงบการเงินรวมประจำปี 59 และเงินที่ได้จากการจำหน่ายหุ้นคืนดังกล่าวจะนำมาใช้ในการดำเนินธุรกิจหลักของบริษัทในการขยายงานในอนาคตที่เตรียมไว้ต่อไป