นายดิสสทัต วิเศษวร ผู้อำนวยการฝ่ายบัญชีและการเงิน บมจ.ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน (ROBINS) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ายอดขายรวมปีนี้เติบโต 5-6 % จากปีก่อนที่ทำยอดขายได้อยู่ที่ 2.6 หมื่นล้านบาท โดยที่ตั้งเป้ายอดขายจากสาขาเดิม (SSSG) ในปีนี้จะเติบโตได้ราว 1-2% จากปีก่อนที่เติบโตเพียง 0.1 % จากแนวโน้มภาวะของกำลังซื้อที่เริ่มฟื้นตัวขึ้น ประกอบกับบริษัทจะเน้นกลยุทธ์การขยายสินค้าในกลุ่มเฮ้าส์แบรนด์และสินค้าแบรนด์ต่างประเทศที่เป็นที่นิยม ซึ่งเป็นสินค้าที่ให้อัตรากำไร (มาร์จิ้น) สูง
ขณะที่แนวโน้มของกำลังซื้อในปีนี้มองว่าจะค่อย ๆ ทยอยฟื้นตัวขึ้น หลังจากแนวโน้มราคาสินค้าเกษตรปรับตัวขึ้น และการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐก็จะช่วยกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจโดยรวม และมีเม็ดเงินเข้ามาในระบบเพิ่มขึ้นทำให้ประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้นตาม ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนที่จะช่วยให้ประชาชนมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้นและมีการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น
ส่วนแผนการลงทุนในปี 60 บริษัทตั้งงบลงทุนไว้ที่ 4.1 พันล้านบาท ส่วนใหญ่เพื่อใช้ในการขยาย 3 สาขาใหม่ในต่างจังหวัด ได้แก่ โรบินสัน lifestyle center เพชรบุรี โดยมีพื้นที่ 35,000 ตารางเมตร มีกำหนดให้บริการในไตรมาส 2/60 โรบินสัน lifestyle center กำแพงเพชร พื้นที่ 28,000 ตารางเมตร มีกำหนดเปิดให้บริการในไตรมาส 4/60 และโรบินสันมหาชัย พื้นที่ 15,000 ตารางเมตร มีกำหนดเปิดให้บริการในช่วงไตรมาส 4/60
และเงินลงทุนบางส่วนจะนำไปปรับปรุงสาขาเดิมบางสาขา โดยปัจจุบันบริษัทมีสาขาทั้งสิ้น 44 สาขา และตั้งเป้าปี 63 จะมีสาขารวมทั้งสิ้น 56 สาขา แบ่งเป็นการขยายสาขาปีละ 3 สาขาตั้งแต่ปี 60-63 นอกจากนี้ บริษัทยังตั้งเป้าหมายเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยปีละ 0.5% จากการเพิ่มสัดส่วนยอดขายสินค้าที่ให้มาร์จิ้นสูงและการเพิ่มพื้นที่ขาย จากการขยายสินค้าที่มีขายเฉพาะห้างสรรพสินค้าโรบินสันที่มีต้นทุนไม่สูงมากนัก และเน้นรูปแบบการขายในลักษณะการให้บริการตนเองเพื่อลดต้นทุนพนักงานและต้นทุนการตลาด โดยในปีที่ผ่านมาอัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทอยู่ที่ 24%