สำหรับในส่วนการเข้าตรวจสอบฐานะกิจการ (Due Diligence) เพื่อประกอบการศึกษาความเป็นไปได้ในการเข้าลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวล ของบริษัท ทรู เอ็นเนอร์ยี่ เพาเวอร์ ลพบุรี จำกัด (TRUE-P) ในกลุ่ม IFEC นั้น ยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่องต่อไป
อนึ่ง ก่อนหน้านี้ ECF ระบุว่าวางเงินมัดจำ 50 ล้านบาท เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ของการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวล ขนาด 7.5 เมกะวัตต์ (MW) ในจ.ลพบุรี ซึ่งเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าแล้ว โดยโรงไฟฟ้าดังกล่าวเป็นของกลุ่ม IFEC ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปการเข้าลงทุนไม่เกินไตรมาส 2/60 ซึ่งหากผลการศึกษาเป็นที่น่าพอใจ เงินมัดจำดังกล่าวจะเป็นส่วนหนึ่งของราคาซื้อขาย แต่หากไม่เป็นที่น่าพอใจ IFEC จะต้องคืนเงินมัดจำดังกล่าว
แต่เนื่องจากขณะนั้นทาง IFEC ต้องการเงินจำนวน 50 ล้านบาท จึงขอให้บริษัทจัดทำสัญญาในรูปแบบเงินกู้ยืมระยะสั้นไม่เกิน 90 วันขึ้นมาระหว่าง IFEC และ ECF คิดอัตราดอกเบี้ย 6.25% ต่อปี โดยเสนอหลักประกันคือหุ้นที่ IFEC ถืออยู่ในบริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เทอมอล พาวเวอร์ จำกัด (IFEC-T) จำนวน 5 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 8.3% มาจำนำ และให้ระบุไว้ในเงื่อนไขสัญญาว่าสามารถใช้แทนการวางเงินมัดจำตามสัญญาได้ ขณะที่ IFEC-T ถือหุ้นใน TRUE-P จำนวน 99.99%