บมจ.สายการบินนกแอร์ (NOK) ชี้แจงผลประกอบการของบริษัทและบริษัทย่อย ในไตรมาส 1/60 มีผลขาดทุนส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ จำนวน 295.56 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนในช่วงเดียวกันที่มีผลขาดทุน 405.82 ล้านบาท เป็นผลจากต้นทุนการดำเนินงานของบริษัทสูงกว่ารายได้จากค่าโดยสาร สาเหตุหลักมาจากตามการปรับตัวของราคาน้ำมันอากาศยานสำหรับเครื่องบิน ประกอบกับ การขยายเส้นทางการบินเพิ่มมากขึ้นส่งผลต่อต้นทุนน้ำมันอากาศยานเพิ่มสูงขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน
งบการเงินเฉพาะกิจการ บริษัทมีรายได้รวม 4,087.50 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.88% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลมาจากการขยายเส้นทางการบิน และ เพิ่มความถี่เที่ยวบินทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ ทำให้ปริมาณการผลิตด้านผู้โดยสาร (ASK) เพิ่มขึ้น 20.86% และจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 16.27%
อย่างไรก็ตาม รายได้ค่าโดยสารต่อผู้โดยสารต่อกิโลเมตร (Passenger Yield) ปรับตัวลดลงเล็กน้อย 1.71% เนื่องจากราคาตั๋วค่าโดยสารลดลง จากการปรับตัวของตลาดการแข่งขันสายการบินด้านราคาสูงขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับรายได้ต่อปริมาณการผลิตด้านผู้โดยสาร (RASK) ที่ปรับตัวลดลงเช่นเดียวกันจาก 2.27 มาอยู่ที่ 2.18 บาท/ที่นั่ง-กม.
ด้านต้นทุนในการดำเนินงาน บริษัทมีต้นทุนในการดำเนินงานรวม 4,381.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.51% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักมาจากการปรับตัวของราคาน้ำมันอากาศยานสำหรับเครื่องบินเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก ประกอบกับการเพิ่มขึ้นของจำนวนบุคลากร เพื่อรองรับการขยายตัวของฝูงบิน อีกทั้งการขยายเส้นทางการบินทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ อย่างไรก็ตาม เนื่องด้วยอัตราปริมาณการผลิตผู้โดยสารที่ขยายตัวสูงกว่าการเพิ่มขึ้นของต้นทุนในการดำเนินงานรวม ทำให้บริษัทมีต้นทุนต่อปริมาณการผลิตผู้โดยสาร (CASK) ลดลงมาอยู่ที่ 2.36 บาท/ที่นั่ง-กม. ลดลง 8.17%
สำหรับตลาดการแข่งขันธุรกิจสายการบินราคาประหยัดภายในประเทศยังคงแข่งขันกันอย่างรุนแรงทางด้านราคาค่าโดยสาร อย่างไรก็ตาม สำหรับธุรกิจการท่องเที่ยวมีขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และจากเศรษฐกิจภายในประเทศขยายตัวอย่างช้าๆ ทั้งนี้จากอุปสงค์ภายในประเทศเป็นหลักในการผลักดันในการขยายตัวของนักท่องเที่ยวในประเทศ จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ประกอบการขยายเส้นทางการบินแบบเช่าเหมาลำไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีน เพิ่มขึ้นจากไตรมาสสุดท้ายของปี 59 จาก 281 เที่ยวบิน เป็น 512 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นเป็น 82.21%
ปัจจัยภายนอกที่มีผลต่อต้นทุนการดำเนินงานรวมอย่างมีนัยสำคัญ ได้แก่ อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศและราคาน้ำมันอากาศยานสำหรับเครื่องบิน (Jet Fuel Price) โดยความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศจะส่งผลต่อต้นทุนการดำเนินงานรวม คิดเป็น 67.97% ประกอบไปด้วยค่าน้ำมันเชื้อเพลิง ค่าเช่าเครื่องบิน ค่าซ่อมบำรุงและค่าประกันภัยเครื่องบิน โดยค่าเงินบาทไตรมาสแรกของปี 59 เฉลี่ยอยู่ที่ 35.83 และในไตรมาส 1/60 ลดลงเป็น 35.29 บาท/ดอลลาร์
ด้านราคาน้ามันอากาศยาน (Jet Fuel Price) ในไตรมาสแรกของปี 60 ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 64.32 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้นจาก 42.29 ดอลลาร์/บาร์เรลในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ทำให้บริษัทมีต้นทุนน้ามันเชื้อเพลิงอยู่ที่ 1,057.23 ล้านบาท คิดเป็น 24.27% ของต้นทุนการดำเนินงานรวม เพิ่มขึ้น 81.25%
ในไตรมาส 1/60 บริษัทมีรายได้รวม 4,087.50 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.88% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า แบ่งเป็นรายได้จากค่าโดยสาร 3,548.42 ล้านบาท คิดเป็น 86.81 ของรายได้รวม รายได้จากการให้บริการ 293.68 ล้านบาท คิดเป็น 7.18% และรายได้อื่น 245.40 ล้านบาท คิดเป็น 6.00% ของรายได้รวม ส่วนรายได้ต่อปริมาณการผลิตผู้โดยสาร (RASK) เท่ากับ 2.18 บาท/ที่นั่ง-กม.ลดลง 3.96% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
รายได้จากค่าโดยสารเพิ่มขึ้นตามการเพิ่มขึ้นปริมาณการผลิตผู้โดยสาร โดยในไตรมาส 1/60 รายได้จากค่าโดยสาร ซึ่งเพิ่มขึ้น 16.82% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า สาเหตุหลักมาจากรายได้จากเส้นทางการบินภายในประเทศเพิ่มขึ้น 15.65% ซี่งสอดคล้องกับการเพิ่มขึ้นของปริมาณการผลิตผู้โดยสาร 19.43% ประกอบกับการเพิ่มขึ้นของรายได้จากเส้นทางการบินระหว่างประเทศแบบเช่าเหมาลำเพิ่มขึ้น 72.37% ซึ่งมาจากการเปิดเส้นทางใหม่ในเส้นทางการบินระหว่างประเทศ ทำให้ปริมาณการผลิตผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 42.77% หรือ เพิ่มขึ้น 61 ล้านที่นั่ง-กม. จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า
แต่รายได้ผู้โดยสารต่อผู้โดยสารต่อกิโลเมตร (Passenger Yield) ลดลงจากการแข่งขันด้านราคาค่าโดยสาร โดยรายได้ต่อผู้โดยสารต่อกิโลเมตร เป็น 2.30 บาท/ที่นั่ง-กม. ซึ่งลดลง 1.71% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า สาเหตุหลักมาจากการแข่งขันสูงทางด้านราคาค่าโดยสารในธุรกิจสายการบินราคาประหยัด แม้ว่าบริษัทจะมีการเพิ่มขึ้นปริมาณการขนส่งด้านผู้โดยสารมากขึ้นทั้งในเส้นทางการบินในประเทศและระหว่างประเทศ ซึ่งเพิ่มขึ้น 245 ล้านที่นั่ง-กม. เพิ่มขึ้น 18.87% ก็ตาม
ทั้งนี้ ในช่วงไตรมาส 1/60 มีเหตุการณ์สำคัญได้แก่ การยกเลิกการโหลดสัมภาระฟรี 15 กิโลกรัม ให้กับผู้โดยสารที่จองบัตรโดยสารประเภทโปรโมชั่น ตั้งแต่วันที่ 20 ก.พ.60 โดยผู้โดยสารสามารถซื้อน้ำหนักเพิ่มเติมได้ขณะที่ทำการจองบัตรโดยสารผ่านเว็บไซต์นกแอร์ นกแอร์แอพพลิเคชัน หรือเว็บไซต์นกแฟนคลับ อย่างไรก็ตาม ผู้โดยสารที่จองบัตรโดยสารประเภทนกประหยัด (NOK ECO) และนกเปลี่ยนได้ (NOK FLEXI) ยังคงได้สิทธิในการโหลดสัมภาระฟรีเหมือนเดิม
ในช่วงวันที่ 12-20 ม.ค.60 บริษัทได้ให้บริการขนส่งฟรี สาหรับสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภค พร้อมทั้งยังจัดถุงยังชีพ เพื่อนาไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในภาคใต้
การเปิดเส้นทางใหม่ บริษัทเพิ่มเส้นทางการบินต่างประเทศสำหรับเที่ยวบินเช่าเหมาลำ จำนวน 2 เส้นทาง ได้แก่ ดอนเมือง – หลินอี้, ภูเก็ต – หนางหนิง ทำให้ในไตรมาส 1/60 บริษัทให้บริการเส้นทางการบินต่างประเทศสำหรับเที่ยวบินเช่าเหมาลำ ดังนี้
- ภูเก็ต – เฉิงตูและกลับ จานวน 7 เที่ยวบินต่อสัปดาห์
- ดอนเมือง – หนางหนิงและกลับ จานวน 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์
- เชียงใหม่ – หนางหนิงและกลับ จานวน 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์
- ภูเก็ต – หนางหนิงและกลับ จานวน 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์
- ดอนเมือง –หยินฉวนและกลับ จานวน 1 เที่ยวบินต่อสัปดาห์
- ดอนเมือง – หลินอี้และกลับ จานวน 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์
- ภูเกีต – หนานตงและกลับ จานวน 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์