TRUE เผย Q1/60 ขาดทุน 1.15 พันลบ.แม้รายได้โตแต่ค่าใช้จ่ายสูง,ทรูมูฟเอชตอกย้ำเบอร์ 2

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday May 16, 2017 10:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวิลเลี่ยม แฮริส หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการเงิน บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานรวมของบริษัท และบริษัทย่อยในไตรมาส 1/60 มีผลขาดทุนสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทจำนวน 1,151.59 ล้านบาท ซึ่งเปลี่ยนแปลงในอัตราที่สูงกว่า 20% จากไตรมาสเดียวกันของปี 59 ที่มีกำไรสุทธิ 2,162 ล้านบาท

ในไตรมาส 1/60 กลุ่ม TRUE มีรายได้รวม 3.25 หมื่นล้านบาท เติบโต 11.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยรายได้จากการให้บริการโดยรวม เติบโต 13.7% จากไตรมาสแรกปีก่อนหน้า เป็นจำนวน 2.37 หมื่นล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นผลจากการเติบโดอย่างโดดเด่นของธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่มีรายได้จากการให้บริการเพิ่มขึ้นอย่างสูงถึง 24.3% จากช่วงเวลาเดียวกันปีก่อนหน้า

ขณะที่แคมเปญไฟเบอร์ บรอดแบนด์ ได้รับผลตอบรับที่ดีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผลักดันให้รายได้จากบริการบรอดแบนด์ อินเตอร์เน็ต สำหรับลูกค้าทั่วไป เพิ่มขึ้น 14% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า

TRUE ระบุว่า ธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ภายใต้ ทรูมูฟ เอช ผลักดันการเติบโตของกลุ่ม TRUE ด้วยรายได้จากการให้บริการเพิ่มขึ้น 24.3% ซึ่งเติบโตสูงกว่าภาพรวมของอุตสาหกรรมเป็นอย่างมาก ตอกย้ำการก้าวขึ้นเป็นผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่อันดับ 2 ของประเทศชัดเจนทั้งในด้านรายได้และฐานลูกค้า โดยมีจำนวนผู้ใช้บริการรายใหม่สุทธิ 1.2 ล้านรายในไตรมาส 1/60 ผลักดันให้ฐานลูกค้าโดยรวมเพิ่มขึ้นเป็น 25.8 ล้านราย ประกอบด้วยผู้ใช้บริการในระบบรายเดือน 6.3 ล้านราย และ ระบบเติมเงิน 19.5 ล้านราย รายได้เฉลี่ยต่อผู้ใช้บริการต่อเดือนเป็น 207 บาท

"ในไตรมาส 1/60 ทรูมูฟ เอช เติบโตอย่างเข้มแข็งและมีส่วนแบ่งตลาดรายได้จากการให้บริการ และส่วนแบ่งตลาดฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นเป็น 25.8% และ 28.4% ตามลำดับ แม้การแข่งขันในอุตสาหกรรมยังคงอยู่ในระดับที่สูงโดยผู้ให้บริการต่างชูประสิทธิภาพด้านคุณภาพโครงข่ายและความเร็ว โดยเฉพาะการนำเสนอแคมเปญดีไวซ์ที่มอบการใช้งานดาต้าอย่างไม่จำกัด เพื่อเพิ่มฐานลูกค้า 4G และลูกค้าระบบรายเดือนในขณะที่แคมเปญสำหรับบริการแบบเติมเงินด้วยการอุดหนุนหรือให้ส่วนลดดีไวซ์มีการกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนมากขึ้น "TRUE ระบุ

ทั้งนี้ รายได้และฐานลูกค้าที่เติบโตแข็งแกร่งส่งผลให้กำไรก่อนหักภาษี ดอกเบี้ย ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ของกลุ่ม TRUE เพิ่มขึ้น 29.5% จากไตรมาสแรกปีก่อนหน้ามาเป็น 7.3 พันล้านบาท และ EBITDA margin เพิ่มขึ้นเป็น 32% ตามการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของรายได้และ scale ที่เพิ่มสูงขึ้น

ด้านค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเพิ่มขึ้นเป็น 3.31 หมื่นล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 15% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อการลงทุนเพิ่มประสิทธิภาพและความครอบคลุมของโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่และบรอดแบนด์ อินเทอร์เน็ต ทั่วประเทศต่อเนื่อง รวมถึงการขยายการให้บริการของกลุ่ม และการรับรู้ค่าตัดจำหน่ายใบอนุญาตใช้คลื่นความถี่ ส่งผลให้กลุ่ม TRUE รายงานผลขาดทุนสุทธิ

TRUE ระบุว่าในไตรมาส 1/60 ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย เพิ่มขึ้น 46.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าเป็น 8 พันล้านบาท จากการขยายโครงข่ายและบริการอย่างต่อเนื่อง ส่วนดอกเบี้ยจ่ายเพิ่มขึ้นเป็น 1.4 พันล้านบาทจากหนี้สินที่เพิ่มขึ้นเพื่อสนับสนุนการขยายธุรกิจรวมถึงการใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของกลุ่ม

อย่างไรก็ตาม ในไตรมาส 1/60 กลุ่ม TRUE สามารถชำระหนี้สินและปฏิบัติตามข้อผูกพันตามสัญญาทางการเงินต่างๆ โดยมีอัตราส่วนความสามารถในการชาระดอกเบี้ยค่อนข้างคงที่จากไตรมาสก่อนหน้าที่ 5.0 เท่า ขณะที่อัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อ EBITDA และอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น เป็น 3.0 เท่า และ 0.6 เท่า ตามลำดับ

และในไตรมาส 1/60 กลุ่ม TRUE มีอัตรากำไรสุทธิปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม การขยายโครงข่ายและบริการอย่างต่อเนื่องของกลุ่ม รวมไปถึงการได้มาซึ่งใบอนุญาตใช้คลื่นความถี่ส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิและอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (ROE) ติดลบ 3.5% และ 4.7% ตามลำดับ

กลุ่ม TRUE มีอัตราส่วนสภาพคล่องเพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันปีก่อนหน้า เป็น 0.7 เท่า เป็นผลจากเงินสดที่เพิ่มขึ้นโดยมีวงจรเงินสด (cash cycle) เป็น 29 วัน แต่ลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า จากเงินกู้ยืมเพิ่มเติม ทั้งนี้ กลุ่ม TRUE มีระยะเวลาชำระหนี้ฉลี่ยเพิ่มขึ้นเป็น 226 วัน ในขณะที่ระยะเวลาเก็บหนี้เฉลี่ยลดลงเป็น 94 วัน จากมาตรการการเก็บเงินจากลูกหนี้ที่มีประสิทธิภาพของกลุ่ม


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ