(เพิ่มเติม) SUPER จะออกวอร์แรนต์ 5.47 พันล้านหน่วยให้ฟรีผถห.เดิม 5:1 พร้อมเพิ่มทุนรองรับ,คาดกำไรปีนี้ทำนิวไฮ

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday May 16, 2017 10:49 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.ซุปเปอร์บล๊อก (SUPER) แจ้งว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวานนี้ (15 พ.ค.) อนุมัติให้ออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุน (วอร์แรนต์) รุ่นที่ 4 (SUPER-W4) จำนวนไม่เกิน 5.47 พันล้านหน่วย จัดสรรให้ฟรีแก่ผู้ถือหุ้นเดิม ในสัดส่วน 5 หุ้นเดิมต่อ 1 วอร์แรนต์ พร้อมจะเพิ่มทุนใหม่จำนวน 5.47 พันล้านหุ้น พาร์หุ้นละ 0.10 บาท เพื่อรองรับการใช้สิทธิแปลงสภาพวอร์แรนต์ดังกล่าว

โดย SUPER-W4 มีอายุไม่เกิน 3 ปี มีอัตราการใช้สิทธิ 1 วอร์แรนต์ต่อ 1 หุ้นเพิ่มทุน โดยมีราคาการใช้สิทธิหุ้นละ 2.50 บาท

อย่างไรก็ตามก่อนการเพิ่มทุนใหม่ บริษัทจะลดทุนจดทะเบียนด้วยการตัดหุ้นที่ยังไม่ได้ออกจำหน่าย หลังจากนั้นให้เพิ่มทุนเพื่อรองรับการแปลงสภาพวอร์แรนต์ดังกล่าว ซึ่งภายหลังการเพิ่มทุนจะทำให้มีทุนจดทะเบียนเป็น 3.28 พันล้านบาท จากเดิมที่ 2.73 พันล้านบาท ซึ่งบริษัทจะนำเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนมาใช้รองรับการขยายธุรกิจและสร้างรายได้ให้แก่บริษัทในอนาคต และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนภายในบริษัทต่อไป

นายจอมทรัพย์ โลจายะ ประธานคณะกรรมการ ของ SUPER กล่าวว่า บริษัทวางเป้าหมายรายได้ในปีนี้อยู่ที่ 9,000-10,000 ล้านบาท ผลักดันรายได้และกำไรในปีนี้ทำสถิติสูงสุดใหม่ เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมามีกำไรสุทธิ 361.62 ล้านบาท โดยในส่วนของการลงทุนโรงไฟฟ้าในต่างประเทศ ปีนี้คาดว่าจะเห็นการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ จากปัจจุบันมีโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มกำลังการผลิตรวม 30 เมกะวัตต์ ในประเทศจีน และประเทศญี่ปุ่น คาดว่าจะรับรู้ในไตรมาส 2-3 ของปีนี้ โดยวางเป้าหมายขยายกำลังการผลิตโรงไฟฟ้าในต่างประเทศเพิ่ม ในรูปแบบการลงทุนกับพันธมิตร และการเข้าซื้อกิจการ (M&A) ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการร่วมลงทุน ซึ่งรวมถึงการเข้าลงทุนโครงการผลิตไฟฟ้าจากขยะอุตสาหกรรมด้วย นอกจากนี้บริษัทยังได้ยื่นใบสมัครเข้าร่วมโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์จากหน่วยงานราชการและสหกรณ์การเกษตร ระยะที่ 2 ซึ่งจะมีการประกาศการจับฉลากใน 1- 2 เดือนข้างหน้านี้ด้วย สำหรับผลประกอบการในไตรมาส 1/60 บริษัทมีรายได้รวม 1.48 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 372.57 % เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 504.96 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากกำไรสุทธิ 17.65 ล้านบาทในงวดปีก่อน เนื่องจากการมีการรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ที่ได้ดำเนินการจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ในมือที่มีกำลังการผลิต 735.60 เมกะวัตต์ จากสัญญาซื้อขายไฟที่ปัจจุบันมีทั้งหมด 809 เมกะวัตต์ ณ วันที่ 31 มีนาคม 60

"ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/60 ที่เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ มาจากการรับรู้รายได้โครงการโซลาร์ฟาร์มสหกรณ์ภาคการเกษตร ที่รับเข้ามาแบบเต็ม ๆ จากโครงการที่ค้างมาจากช่วงปลายปีที่แล้ว ขณะเดียวกันยังสามารถบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย"นายจอมทรัพย์ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ