บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) เปิดเผยว่าการหยุดผลิตปิโตรเลียมในพื้นที่สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ในโครงการ S1 เป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 3 มิ.ย.ที่ผ่านมานั้น จะส่งผลให้ปริมาณการขายน้ำมันดิบลดลงประมาณ 15,000 บาร์เรล/วัน ก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ลดลงประมาณ 130 ตัน/วัน และก๊าซธรรมชาติ ลดลงประมาณ 10 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน คิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 4-5 ของปริมาณการขายคาดการณ์เฉลี่ยทั้งปี 60 ที่ประมาณ 300,000-310,000 บาร์เรล/วัน
อนึ่ง โครงการ S1 ตั้งอยู่ในพื้นที่จ.สุโขทัย ,พิษณุโลก และกำแพงเพชร โดย PTTEP และบริษัท ปตท.สผ.สยาม จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ถือสัดส่วนโครงการ S1 จำนวน 100% มีปริมาณขายน้ำมันดิบเฉลี่ยปี 59 ที่ 27,351 บาร์เรล/วัน ,LPG ประมาณ 264 ตัน/วัน และก๊าซธรรมชาติประมาณ 21 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน
ทั้งนี้ การหยุดผลิตปิโตรเลียมในพื้นที่ดังกล่าว เป็นไปตามศาลปกครองสูงสุดได้มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 1 มิ.ย.60 ให้เพิกถอนระเบียบคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม เรื่องการให้ความยินยอมในการนำทรัพยากรธรรมชาติในเขตปฏิรูปที่ดินไปใช้ประโยชน์ตามกฎหมายอื่น กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติจึงแจ้งให้ผู้รับสัมปทานบนบกทุกรายหยุดกิจกรรมการผลิตปิโตรเลียมที่มีการดำเนินการอยู่ในพื้นที่ส.ป.ก.เป็นการชั่วคราว อย่างไรก็ดีขณะนี้กรมเชื้อเพลิงฯอยู่ระหว่างการรวบรวมผลกระทบที่เกิดขึ้นกับผู้รับสัมปทานบนบกรายอื่น เพื่อพิจารณาแนวทางแก้ไขปัญหาต่อไป