บมจ.เสนาดีเวลลอปเม้นท์ (SENA) แจ้งว่าวันนี้ (7 มิ.ย.) บริษัทได้ลงนามในสัญญาร่วมทุน (Joint Venture Agreement) และสัญญาจองซื้อหุ้น (Share Subscription Agreement) กับบริษัท ฮันคิว เรียลตี้ จำกัด เพื่อร่วมทุนในการดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยการร่วมทุนในบริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ เอ 3 จำกัด
ทั้งนี้ เสนา เอ3 จะเพิ่มทุนจดทะเบียนอีก 499 ล้านบาท จากเดิม 1 ล้านบาท เป็น 500 ล้านบาท โดยออกหุ้นใหม่ 4.99 ล้านหุ้น พาร์หุ้นละ 100 บาท โดยบริษัทจะซื้อหุ้นเพิ่มทุนในเสนา เอ3 จำนวน 2.54 ล้านหุ้น คิดเป็นราว 51% ในราคาหุ้นละ 100 บาท รวมเป็นเงิน 254 ล้านบาท และสละสิทธิการซื้อหุ้นเพิ่มทุนในเสนา เอ3 ตามที่ได้รับจัดสรรตามสัดส่วนการถือหุ้นจำนวน 2.45 ล้านหุ้น เพื่อการจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนดังกล่าวให้แก่บริษัท ฮันคิว เรียลตี้ จำกัด ในราคาหุ้นละ 100 บาท รวมเป็นมูลค่า 244.99 ล้านบาท หรือคิดเป็นการถือหุ้นราว 49%
กรณีดังกล่าวทำให้สัดส่วนการถือหุ้นของบริษัท ในเสนา เอ3 ภายหลังการจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนของเสนา เอ 3 และการสละสิทธิดังกล่าวของบริษัท จะลดลงจากเดิมที่ 100% เป็น 51%
นางเกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของ SENA กล่าวว่า บริษัทและฮันคิว เรียลตี้ จากญี่ปุ่น ได้เดินหน้าพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ร่วมกัน โดยเน้นพื้นที่ตามแนวรถไฟฟ้า ซึ่งปีนี้มีแผนเปิดตัว 2 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 7,000 ล้านบาท ได้แก่ โครงการ นิช ไพรด์ เตาปูน-อินเทอเชนจ์ และล่าสุดที่จะเซ็นสัญญาร่วมลงทุนในโครงการ “นิช โมโน สุขุมวิท 70"
"นับเป็นโครงการที่สองที่ ฮันคิว เรียลตี้ ได้ให้ความไว้วางใจร่วมทุนกับบริษัท จากโครงการแรก คือ นิชไพรด์ เตาปูน-อินเตอร์เชนจ์ ที่ได้ลงนามร่วมทุนกันไปเมื่อเดือน ธันวาคม 2559 และในครั้งนี้เป็นต่อยอดเดินหน้าร่วมทุนเป็นโครงการที่ 2 แสดงให้เห็นถึงผลสำเร็จของการดำเนินงานที่ดีร่วมกันในครั้งแรก ซึ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะมีการร่วมทุนเพิ่มขึ้นเป็นโครงการที่ 3 ที่ 4 ต่อไป ซึ่งถือเป็นปัจจัยหลักที่สนับสนุนการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในอนาคต"นางเกษรา กล่าว
สำหรับโครงการ นิช โมโน สุขุมวิท 70 เป็นโครงการคอนโดมิเนียมระดับสูง (High-Rise) ที่มีจำนวนยูนิตมากกว่า 1,270 ยูนิต และตั้งอยู่ใกล้รถไฟฟ้าสายสีเขียวสถานีแบริ่งเพียง 250 เมตร โดยสถานีแบริ่งเป็นสถานีที่สะดวกสบายในการเชื่อมต่อกับสถานีอโศกซึ่งเป็นศูนย์กลางทางธุรกิจของกรุงเทพฯ นอกจากนี้รถไฟฟ้าสายสีเขียวยังเชื่อมต่อกับสถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิ้งค์ ซึ่งเป็นเส้นทางไปสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิอีกด้วย
โครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ เสนา ฮันคิว ดำเนินการร่วมกันนั้น เกิดขึ้นภายใต้แนวความคิดและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ “Geo Fit" ซึ่งใส่ใจในรายละเอียดและเข้าใจความต้องการของผู้อยู่อาศัยอย่างลึกซึ้ง สามารถนำมาใช้กับการสร้างอยู่อาศัยอย่างยอดเยี่ยม ได้แก่ Japanese Functionality คือ ฟังก์ชั่นการใช้งานที่มีประสิทธิภาพ , Japanese Innovation นวัตกรรมแนวคิดใหม่ๆ ที่คิดออกมา เพื่อการอยู่อาศัยอย่างสมบูรณ์แบบ และ Japanese Design กลิ่นอายของความเป็นญี่ปุ่นในการออกแบบ
นางเกษรา กล่าวอีกว่า บริษัทเปิดตัวการทำ Branding ของ Geo Fit จากฮันคิว ซึ่งจะเป็น Branding ในลักษณะ Trustmark หรือการสร้างความน่าเชื่อถือผ่านสัญลักษณ์ของแบรนด์ที่มีความชำนาญพิเศษในเรื่องใดเรื่องหนึ่งเป็นพิเศษ เหมือนกับตราประทับรับรองในคุณภาพของสินค้าและตราประทับ Geo Fit จากฮันคิวนี้ จะอยู่ร่วมกับทุกโครงการที่ เสนา ฮันคิว ทำร่วมกัน และจะถูกใช้ในการสื่อสารการตลาด และแม้แต่ประกอบอยู่ในส่วนต่างๆของโครงการหรือองค์ประกอบในห้อง ที่พัฒนาขึ้นมาภายใต้แนวคิดนี้
นายริวอิจิ โมโรโทมิ ประธาน บริษัท ฮันคิว เรียลตี้ (ประเทศญี่ปุ่น) จำกัด กล่าวว่า บริษัทมีประวัติการดำเนินงานในนามกลุ่มบริษัทฮันคิว มายาวนานกว่า 100 ปี โดยธุรกิจหลักคือการพัฒนาที่อยู่อาศัยตามแนวรถไฟที่ดำเนินการโดยบริษัทฮันคิว โดยกลุ่มบริษัทฮันคิว มีแนวคิดในการทำงานที่ว่า “ใส่ใจต่อการบริการลูกค้าเป็นอันดับหนึ่ง ให้ความสำคัญกับการบริการลูกค้าเป็นอันดับหนึ่ง" นอกจากนี้ตลอดระยะเวลาการดำเนินงานทางบริษัทได้เพิ่มความรู้และเก็บเกี่ยวประสบการณ์เพื่อให้บริการลูกค้าอย่างเต็มที่และจากประวัติการดำเนินงานทางบริษัทมีผลงานในการก่อสร้างบ้านพักที่อยู่อาศัยกว่า 60,000 ยูนิต คอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ “จีโอ" กว่า 20,000 ยูนิต