นายมิทซึจิ โคโนชิตะ ประธานกรรมการ บมจ.กรุ๊ปลีส (GL) ชี้แจงต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เกี่ยวกับกรณีถูกดำเนินการโดยหน่วยงานกำกับดูแลในต่างประเทศ คือ สำนักงานกำกับการบริการทางการเงินแห่งประเทศญี่ปุ่น (Japanese Financial Services Agency (FSA) สั่งปรับ
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 1 พ.ย.56 คณะกรรมการกำกับดูแลหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ในประเทศญี่ปุ่น (Japanese Securities and Exchange Surveillance Commission (SESC) ได้มีหนังสือเพื่อเสนอแนะให้ FSA ออกคำสั่งลงโทษทางปกครองด้านการเงินให้ข้าพเจ้าชำระเงินสำหรับการกระทำด้วยวิธีการฉ้อฉลอันเกี่ยวข้องกับหลักทรัพย์ในประเทศญี่ปุ่นในปี 53 ในวันเดียวกันนี้ FSA ได้ตัดสินให้เริ่มกระบวนการตรวจสอบตามหนังสือแนะนำดังกล่าว ซึ่งกระบวนการตรวจสอบนี้มิใช่กระบวนการทางศาลในทางอาญาหรือในทางแพ่ง แต่เป็นกระบวนการทางปกครองและดำเนินการโดย FSA
และ ในวันที่ 11 เม.ย.60 FSA ได้มีคำสั่งตัดสินลงโทษทางปกครองด้านการเงินให้นายมิทซึจิชำระเงิน โดยกล่าวอ้างเหตุผลต่างๆ ดังนี้ นายมิทซึจิมีเจตนาที่จะทำให้ราคาหลักทรัพย์ของ Wedge Holdings Co., Ltd. (Wedge) เพิ่มสูงขึ้น และ มีคำสั่งให้ Wedge เปิดเผยข้อมูลซึ่งประกอบด้วยข้อมูลอันเป็นเท็จที่ระบุว่า Wedge คาดว่าจะเข้าควบรวมกิจการของ A.P.F. Hospitality Co., Ltd. (APF HOS) ซึ่งเป็นบริษัท Holding Company ของ Zeavola Resort และผลกำไรจากการลงทุนของ Wedge ในส่วนที่เป็นรายได้ดอกเบี้ยจะเพิ่มขึ้น
ซึ่งในความเป็นจริง Wedge ไม่สามารถคาดการณ์ตามที่เปิดเผยข้อมูลดังกล่าวได้โดยหลักเนื่องจากมีการแบ่งชำระเงินสำหรับค่าหุ้นกู้ซึ่งออกโดย APF HOS ให้กับ Wedge เป็นจำนวนย่อยๆ ในหลายครั้ง ซึ่งทำให้ดูเหมือนว่ามีการชำระค่าหุ้นกู้เต็มจำนวน
นอกจากนั้น ยังระบุว่านายมิทซึจิ ได้ดำเนินการวางแผนการแบ่งโอนชำระเงินที่กล่าวข้างต้น และ ราคาหลักทรัพย์ของ Wedge เพิ่มสูงขึ้นจากการกระทำต่างๆ ข้างต้น
ดังนั้น ในวันที่ 11 พ.ค.60 นายมิทซึจิ จึงได้ยื่นฟ้องรัฐ ตามคำฟ้องเลขที่ Heisei 29 (Gyou wa) No. 218 ต่อ Tokyo District Court เพื่อขอให้ศาลยกเลิกคำสั่ง FSA ซึ่งคดีดังกล่าวเป็นคดีแพ่งและจะเริ่มกระบวนพิจารณาคดีตั้งแต่ศาลชั้นต้น (ทั้งนี้ ไม่เคยมีการยื่นฟ้องร้องคดีอาญา) โดยในคำฟ้องระบุว่าคำสั่ง FSA ไม่มีมูล เนื่องจากเหตุผลหลักดังต่อไปนี้ คือ 1) Wedge ได้มีการชำระเงินค่าหุ้นกู้จริง
2) ไม่ได้ควบคุมการแบ่งโอนชำระเงินและไม่มีข้อเท็จจริงหรือพยานหลักฐานที่แสดงว่าข้าพเจ้าได้เข้าควบคุมการแบ่งโอนชำระเงินในแต่ละครั้ง 3) ไม่มีเจตนาที่จะทำให้ราคาหุ้นของ Wedge เพิ่มขึ้น และจะเห็นได้ว่าหลังจากที่ราคาหุ้นเพิ่มขึ้น ก็ไม่ได้ขายหุ้นแต่ยังตัดสินใจที่จะเข้าซื้อหุ้นของ Wedge เพิ่มโดยบริษัทที่เป็นกรรมการอยู่
(4) ไม่เคยควบคุม Wedge หรือ APF HOS เพื่อให้เข้าทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องและไม่เคยดำเนินการให้ Wedge เปิดเผยข้อมูลใดๆ เนื่องจากทั้ง 2 บริษัทดำเนินการดังกล่าวด้วยตนเองโดยผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบอยู่แล้ว ทั้งนี้ ไม่มีข้อเท็จจริงหรือพยานหลักฐานที่แสดงว่าตนเองได้ควบคุม Wedge และ APF HOS หรือดำเนินการหรือสั่งผู้อื่นให้ดำเนินการเปิดเผยข้อมูลข้างต้น และ 5) การเปิดเผยข้อมูลตามที่กล่าวอ้างในคำสั่ง FSA ไม่ได้มีผลกระทบต่อราคาหุ้นของ Wedge
ทั้งนี้ การไต่สวนคดีตามที่ระบุไว้ในข้อ 3 ข้างต้นจะมีขึ้นเป็นครั้งแรกในวันที่ 14 ก.ค.60 ณ Tokyo District Court
นอกจากนั้น นายมิทซึจิ ยังระบุว่า ในวันที่ 14 มี.ค.60 ขณะที่มีการให้สัมภาษณ์นั้น มิได้ถูกสั่งให้ชำระค่าปรับ หรือได้มีคำสั่งทางปกครองทางการเงินออกมาให้ข้าพเจ้าชำระเงินแต่อย่างใด ทั้งนี้ คำสั่งทางปกครองทางการเงินซึ่งมิใช่ค่าปรับในทางอาญานี้ได้ออกมาเมื่อวันที่ 11 เม.ย.60 ซึ่งเป็นเวลาหลังจากนั้น นอกจากนี้ ตนเองไม่ได้ถูกฟ้องร้องดำเนินคดีโดยหน่วยงานของรัฐแต่เป็นผู้ฟ้องร้องคดีในเดือน พ.ค.60 ดังนั้น จึงมิได้มีเจตนาให้ข้อมูลอันเป็นเท็จ หรือข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งอาจจะทำให้นักลงทุนหรือตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยสำคัญผิดแต่อย่างใด
ส่วนคำสั่ง FSA มิได้มีผลกระทบต่อ GL และธุรกิจของ GL เนื่องจากคำสั่ง FSA เป็นคำสั่งที่มีต่อตนเองเท่านั้น มิใช่คำสั่งที่มีต่อ GL บริษัทในกลุ่มของ GL หรือ Wedge (ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นของ GL) แต่อย่างใด ดังนั้น GL บริษัทในกลุ่มของ GL และ Wedge จึงมิใช่ผู้ที่ต้องชำระเงินตามคำสั่งทางการปกครองทางการเงินดังกล่าว ซึ่งทำให้ไม่มีผลกระทบต่อสถานะทางการเงินของ GL บริษัทในกลุ่มของ GL และ Wedge นอกจากนี้ ธุรกรรมดังกล่าวที่กล่าวอ้างในคำสั่ง FSA มิได้เป็นธุรกรรมที่ GL บริษัทในกลุ่มของ GL และ Wedge เป็นผู้เกี่ยวข้องหรือดำเนินการแต่อย่างใด