บมจ.ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง (TPCH) แจ้งว่าเมื่อวันศุกร์ (7 ก.ค.) เวลา 12.02 น. โรงไฟฟ้าพัทลุง กรีน เพาเวอร์ (PGP) ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าชีวมวล ตั้งอยู่ใน ต.ป่าบอน อ.ป่าบอน จ.พัทลุง ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ได้เริ่มจำหน่ายกระแสไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) โดยมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า 9.2 เมกะวัตต์ (MW) แล้ว โดยเป็นโรงไฟฟ้าชีวมวลโรงที่ 5 ของ TPCH ที่จ่ายไฟฟ้าให้กับ กฟภ. ซึ่งจะรับรู้รายได้ทันทีในช่วงไตรมาส 3/60
ปัจจุบัน บริษัทมีโครงการที่ขายไฟฟ้าแล้วรวมกำลังการผลิตติดตั้ง 50 เมกะวัตต์ และโครงการที่อยู่ในระหว่างก่อสร้าง 10 เมกะวัตต์ นอกจากนั้นยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนา 59 เมกะวัตต์ รวมทั้งสิ้น 119 เมกะวัตต์
นางกนกทิพย์ จันทร์พลังศรี ประธานกรรมการบริหาร TPCH เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่โรงไฟฟ้า PGP เริ่ม COD ส่งผลให้บริษัทมีโรงไฟฟ้าชีวมวลที่เดินเครื่องจ่ายไฟแล้วรวม 5 แห่ง ประกอบด้วย โรงไฟฟ้าชีวมวลช้างแรก ไบโอเพาเวอร์ (CRB) ,โรงไฟฟ้าชีวมวลแม่วงศ์ เอ็นเนอยี่ (MWE),โรงไฟฟ้าชีวมวลมหาชัย กรีน เพาเวอร์ (MGP) โรงไฟฟ้าชีวมวลทุ่งสัง กรีน (TSG ) และโรงไฟฟ้าชีวมวล PGP
ส่วนโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลที่อยู่ระหว่างการพัฒนาในปัจจุบันมีจำนวน 4 โครงการ ประกอบด้วย โรงไฟฟ้าชีวมวล ปัตตานี กรีน (PTG) ,โรงไฟฟ้าชีวมวล ทีพีซีเอช เพาเวอร์1 (TPCH1) ,โรงไฟฟ้าชีวมวล ทีพีซีเอช เพาเวอร์2 (TPCH2) ,โรงไฟฟ้าชีวมวล ทีพีซีเอช เพาเวอร์5 (TPCH5) และโครงการโรงไฟฟ้าขยะ จำนวน 1 โครงการ คือ โรงไฟฟ้า สยาม พาวเวอร์ (SP) กำลังการผลิตรวม 59 เมกะวัตต์
"นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของ TPCH ที่โรงไฟฟ้าชีวมวล พัทลุง กรีน เพาเวอร์ เดินเครื่องจ่ายไฟเชิงพาณิชย์ได้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งทำให้กำลังการผลิตติดตั้งเพิ่มขึ้นเป็น 50 เมกะวัตต์ และทำให้มีกำลังการผลิตติดตั้งรวมทั้งสิ้น 119 เมกะวัตต์
นอกจากนี้ ภาครัฐยังมีนโยบายเปิดประมูลโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน SPP Hybrid Firm และ VSPP Semi-Firm ในปีนี้ ส่งผลดีต่อกลุ่มโรงไฟฟ้าชีวมวลและเป็นโอกาสของบริษัทฯ ที่จะได้เข้าประมูลงาน ช่วยผลักดันให้สามารถดำเนินงานได้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้คือมีกำลังการผลิตของโรงไฟฟ้าชีวมวลจำนวน 200 เมกะวัตต์ ภายในปี 2563"นางกนกทิพย์ กล่าว
นางกนกทิพย์ กล่าวอีกว่า สำหรับโรงไฟฟ้าชีวมวล สตูล กรีน เพาเวอร์ (SGP) ที่ปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้างนั้น คาดว่าจะเสร็จเรียบร้อยและ COD ได้ภายในไตรมาส 3/60 เช่นกัน
TPCH ยังได้รับคัดเลือกจากสถาบันไทยพัฒน์ให้เป็นบริษัทที่โดดเด่นด้านสิ่งแวดล้อม สังคมและธรรมาภิบาล (ESG 100) ประจำปี 2560 เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน โดยการประเมินในปีนี้สถาบันไทยพัฒน์ยังคงใช้วิธีการวิเคราะห์ข้อมูล ESG แบบบูรณาการที่ผนวกเข้ากับข้อมูลทางการเงิน (Integrated ESG Assessment) สะท้อนผลตอบแทนการลงทุน หรือตัวเลขผลประกอบการที่สัมพันธ์กับการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม สังคมและธรรมาภิบาลของบริษัท เพื่อให้ผู้ลงทุนใช้เป็นตัวเลือกในการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนมากกว่าเม็ดเงินกำไรและมิได้ด้อยไปกว่าการลงทุนในแบบทั่วไป ซึ่งผลแห่งการประเมินเป็นที่ยอมรับได้ในมาตรฐานระดับสากล