บมจ.เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ (JWD) แจ้งว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวานนี้ (12 ก.ค.) รับทราบการลงนามในบันทึกข้อตกลงระหว่างบริษัท เอไอเอ็ม รีท แมนเนจเม้นท์ จำกัด (AIM) ซึ่งเป็นบริษัทที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นผู้จัดการกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ เพื่อดำเนินการจัดตั้งทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่า เพื่อลงทุนกรรมสิทธิ์ในที่ดิน กรรมสิทธิ์ในอาคารคลังห้องเย็นและอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับการทำความเย็น และกรรมสิทธิ์ในอาคารคลังสินค้าของบริษัทย่อยของบริษัท (กองทรัสต์) รวม 3 โครงการ ได้แก่
1.โครงการแปซิฟิค ห้องเย็น (มหาชัย จ.สมุทรสาคร) ซึ่งรวมถึงกรรมสิทธิ์ในที่ดินและคลังห้องเย็น อาคารหมายเลขที่ 6 และ 7 โดยบริษัท แปซิฟิค ห้องเย็น จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทถือหุ้นทางอ้อมร้อยละ 99.8 เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์
2.โครงการเจดับเบิ้ลยูดี แปซิฟิค (สุวินทวงศ์ จ.ฉะเชิงเทรา) ซึ่งรวมถึงกรรมสิทธิ์ในอาคารคลังสินค้าและสำนักงาน และกรรมสิทธิ์ในอุปกรณ์ควบรวมและอุปกรณ์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำความเย็น รวมจำนวน 1 หลัง โดยบริษัท เจดับเบิ้ลยูดี แปซิฟิค จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทถือหุ้นอยู่ร้อยละ 99.60 เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ และกรรมสิทธิ์ในที่ดินในบริเวณโครงการ โดยบริษัท เบญจพรแลนด์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทถือหุ้นอยู่ร้อยละ 99.99 เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์
3.โครงการดาต้าเซฟ (สุวินทวงศ์ จ.ฉะเชิงเทรา) ซึ่งรวมถึงกรรมสิทธิ์ในที่ดินและอาคารคลังสินค้าและสำนักงาน รวมจำนวน 1 หลัง โดยบริษัท เบญจพรแลนด์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทถือหุ้นอยู่ร้อยละ 99.99 เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์
ทั้งนี้ บริษัทและบริษัทย่อยร่วมกับ AIM อยู่ระหว่างการศึกษารูปแบบและแผนการลงทุนเพื่อเตรียมการจัดตั้งกองทรัสต์ ตลอดจนรายละเอียดและเงื่อนไขต่าง ๆ ที่จะเข้าทำสัญญากับคู่สัญญาที่เกี่ยวข้อง เมื่อได้ข้อสรุปแล้วบริษัทจะปฏิบัติตามขั้นตอนตามกฎหมายและเปิดเผยรายละเอียดต่าง ๆ ต่อไป
นายชวนินทร์ บัณฑิตกฤษดา ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของ JWD กล่าวว่า การจัดตั้งกองทรัสต์ครั้งนี้นับเป็นการเข้าลงทุนในสินทรัพย์ประเภทคลังสินค้าห้องเย็นเป็นกองแรก
"ปัจจุบันเราอยู่ระหว่างร่วมกับ AIM ศึกษารูปแบบและแผนลงทุนเพื่อเตรียมจัดตั้ง REIT ซึ่งจะส่งผลให้ JWD มีฐานะและศักยภาพด้านการเงินที่แข็งแกร่งขึ้น โดยคลังสินค้าทั้ง 3 โครงการที่บริษัท เลือกมายังอยู่สภาพดีและมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย และหลังจากที่การจัดตั้ง REIT แล้วเสร็จเป็นที่เรียบร้อย บริษัทมีแผนนำเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ไปใช้ขยายการลงทุนในธุรกิจให้บริการด้านโลจิสติกส์ในอาเซียน เพื่อผลักดันธุรกิจเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้"นายชวนินทร์ กล่าว