บมจ.ทีดับบลิวแซด คอร์ปอเรชั่น (TWZ) แจ้งการจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนแบบ General Mandate
เรื่อง : การจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนแบบ General Mandate วันที่คณะกรรมการมีมติ : 17 ก.ค. 2560 รายละเอียดการจัดสรร จัดสรรให้กับ : ผู้ถือหุ้นสามัญเดิม ประเภทหลักทรัพย์ที่จัดสรร : หุ้นสามัญ จำนวนหุ้นที่จัดสรร (หุ้น) : 1,781,916,535 อัตราส่วน (เดิม : ใหม่) : 7 : 2 ราคาจองซื้อ (บาทต่อหุ้น) : 0.25 วันจองซื้อและชำระค่าหุ้น : วันที่ 21 ส.ค. 2560 ถึงวันที่ 25 ส.ค. 2560 วันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้น : 01 ส.ค. 2560 ที่ได้รับสิทธิจองซื้อหุ้นเพิ่มทุน (Record date) วันปิดสมุดทะเบียนเพื่อรวบรวมรายชื่อผู้ถือหุ้น : 02 ส.ค. 2560 ตามมาตรา 225 ของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ วันที่ไม่ได้รับสิทธิจองซื้อหุ้นเพิ่มทุน (XR) : 27 ก.ค. 2560 จำนวนหุ้นสามัญที่จัดสรร (หุ้น) : 1,781,916,535 จำนวนรวมของหุ้นที่จัดสรร (หุ้น) : 1,781,916,535 มูลค่าที่ตราไว้ (Par)(บาทต่อหุ้น) : 0.10
TWZ ระบุว่าจำนวนเงินที่คาดว่าจะได้รับจากการเพิ่มทุนครั้งนี้ 445,479,134 ลาท ซึ่งบริษัทกำหนดวัตถุประสงค์ในการ ใช้เงินเพิ่มทุนในโครงการโซลาร์ของสหกรณ์ระยะที่ 2 จำนวน 2 โครงการๆ ละ 5 เมกะวัตต์ (MW) 200 ล้านบาทน จากวงเงิน ลงทุนทั้งหมดที่คาดว่าเพื่อก่อสร้างโรงไฟฟ้า 2 โรง ประมาณ 450 ล้านบาท กู้ 70% เท่ากับ 315 ล้านบาท บริษัทฯต้องลงทุน 135
อีกส่วนหนึ่งจะใช้เป็นเงินลงทุนโครงการที่เกี่ยวข้องกับพลังงานทางเลือก 200 ล้านบาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างการ พิจารณา 2-3 โครงการ รวมทั้งจะพิจารณาลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับโรงไฟฟ้า
นางปิยะนุช รังคสิริ ประธานกรรมการบริหาร TWZ เปิดเผยว่า การเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับผู้ถือหุ้นเดิมในครั้งนี้ จะมี มูลค่าระดมทุนประมาณ 445 ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯ จะนำไปใช้ในการขยายธุรกิจ ด้วยการลงทุนในโครงการต่างๆ โดยเฉพาะการ ขยายไปสู่กิจการพลังงานทดแทน
ล่าสุดบริษัท เกียร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด บริษัทลูกของ TWZ ได้ตกลงเข้าถือหุ้นบริษัท บีม คอร์ปอเรชั่น จำกัด และ บริษัท ชายน์ เอนเนอร์จี จำกัด ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนโครงการโซลาร์ฟาร์ม ภาคสหกรณ์การเกษตร 2 แห่ง ได้แก่ สหกรณ์การเกษตร เพื่อการตลาดลูกค้า ธ.ก.ส. ขอนแก่น จำกัด และ สหกรณ์ประมงจังหวัดบุรีรัมย์ จำกัด ซึ่งทั้งสองแห่งจับสลากได้และผ่านการคัด เลือกในการยื่นข้อเสนอขอขายไฟฟ้า โครงการละ 5 เมกะวัตต์ รวมเป็น 10 เมกะวัตต์ในโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสง อาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน (โซลาร์ฟาร์ม) สำหรับหน่วยงานราชการและสหกรณ์ภาคการเกษตร ระยะที่ 2 เรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้ การลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์เพิ่มเติมอีก 10 เมกะวัตต์ ถือเป็นการต่อยอดกับโครงการโซลาฟาร์ม โครงการแรก ซึ่งมั่นใจว่าจะสร้างรายได้และกำไรที่มั่นคงให้กับ TWZ ในระยะยาวตลอดโครงการต่อไป
"บริษัทฯ มั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับการสนับสนุนจากผู้ถือหุ้นที่จะใช้สิทธิจองซื้อหุ้นเพิ่มทุน เนื่องจากที่ผ่านมาบริษัทฯ มี พัฒนาการอย่างมีนัยสำคัญในการขยายธุรกิจ ทั้งในส่วนของธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคม ที่ยังมุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค และช่องทางการตลาด โดยล่าสุดได้เน้นการให้บริการร้านค้าเครือข่ายอย่างครบวงจรมาก ขึ้น รวมถึงการขยายไปสู่ธุรกิจที่สร้างผลตอบแทนอย่างมั่นคงและสม่ำเสมอ ได้แก่ ธุรกิจพลังงานทดแทน รวมถึงโครงการพัฒนา อสังหาริมทรัพย์ของ TWZ ภายใต้โครงการเดอะ เพเซอร์ ที่ยังคงดำเนินการตามแผนและเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้"ประธาน กรรมการบริหาร TWZ กล่าว